เจาะลึกแชมเปี้ยน: Aurora

ยัยแม่มดกระต่ายน้อยแสนกล

Aurora นั้นต่างออกไป เธอคือชาววาสทาญ่าผู้มีความสามารถในการมองเห็น (และข้ามผ่าน) ไปยังโลกแห่งวิญญาณในแบบที่ไม่มีใครเหมือน เธอเป็นทั้งสหายและผู้เยียวยาแก่จิตวิญญาณที่เป็นทุกข์ ไม่เหมือนกับแชมเปี้ยนบางคนแถวนี้ และที่สำคัญที่สุดแบบไม่ต้องเถียงเลยก็คือ เธอสามารถผูกมิตรกับ Ornn ได้

และก็เช่นเดียวกับความเป็นแม่มดกระต่ายหน้าตกกระสวมแว่น เรื่องราวการพัฒนาของเธอเองก็แตกต่างไม่แพ้กัน เรื่องราวของเธอเริ่มต้นเมื่อราว ๆ 6 ปีที่แล้ว เริ่มมาเป็นแนวคิดแชมเปี้ยน ก่อนที่จะถูกแยกออกไปเป็น Sylas, Yone, Spirit Blossom, VGU ของ Fiddlesticks และสุดท้ายก็รวมเป็น Aurora ในที่สุด

เรามั่นใจว่าคุณคงกำลังสงสัย “ว่ากระต่ายน้อยสวมหมวกทรงกระดกที่มีหูกระดกไม่แพ้กันนั้นมีอะไรเชื่อมโยงกับปีศาจบรรพกาลของเราด้วยงั้นหรอ?” แบบว่า เพื่อที่จะตอบเรื่องนั้น เราก็ต้องย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้นเลยล่ะ

แม่มดผู้ไม่เคยมีอยู่

นี่คือปี 2018: ระบบรูนเพิ่งจะได้รับการยกเครื่องใหม่ คุณยังถูกวันช็อตโดย Zoe และแพตช์ฆ่า ADCแพตช์ 8.11 ยังไม่ได้นำพาความโศกเศร้ามาสู่เลนล่าง

“ผมเพิ่งจะเข้าร่วมทีมแชมเปี้ยนและถูกบอกว่าจะได้ทำงานร่วมกับ Squad5 เยอะเลยล่ะ ดังนั้นเราจึงออกไปนั่งคุยกันด้านนอกใต้ต้นไม้ในวันฤดูใบไม้ร่วงอากาศดีวันหนึ่ง” หัวหน้าศิลปินคอนเซปต์ Sunny “Kindlejack” Pandita ย้อนวันวาน “เขาบอกผมว่าเขาอยากจะเป็นนักออกแบบชั้นยอด และได้สร้างแชมเปี้ยนสุดเจ๋งแจ๋วทั้งหลาย จากนั้นเราก็จับมือกันและก็แบบว่า เราจะไต่ภูเขาลูกนี้ไปด้วยกัน”

และเพราะแบบนั้น Kindlejack จึงเริ่มต้นวาด

คอนเซปต์ช่วงแรกเริ่มของ Aurora นั้นกว้างมาก: ไม่ว่าจะเป็นนักเต้นผู้สร้างเรื่องราวจากกลุ่มควัน หรือจอมเวทผู้ผสานพลังธาตุให้กลายเป็นเวทมนตร์ต่าง ๆ แต่มีอยู่คอนเซปต์หนึ่งที่ทุกคนมักจะกลับมาให้ความสนใจอยู่เสมอ... นั่นก็คือแม่มดกระต่ายผู้ถือครองเวทมนตร์แห่งวิญญาณ

ไม่นานไอเดียแม่มดกระต่ายใส่แว่นก็เริ่มแพร่สะพัดไปทั่วทีมพัฒนาของ League และผู้คนก็ตกหลุมรักเธออย่างรวดเร็ว ดังนั้นเมื่อผู้จัดการฝ่ายออกแบบเกม Blake “Squad5” Smith เริ่มสร้างชุดสกิลของเธอ เขาก็สามารถตีวงไอเดียไปสู่ภาพฝันที่ยังไม่มีใครสำรวจที่ดูจะเข้ากันได้อย่างดีกับธีมของ Aurora


“ผมชอบไอเดียการสร้างตัวละครแนวซัมมอนเนอร์สุด ๆ แต่สิ่งนั้นก็ทำให้หลายคนสับสนด้วย เพราะคำนี้ล้วนตีความได้ต่างไปขึ้นอยู่กับแต่ละคน” Squad5 อธิบาย “หลายคนจะคิดถึงอะไรแบบ Pokémon ที่ซึ่งคุณเรียกสิ่งที่อยู่ข้างกายออกมา แต่ผมอยากได้การซัมมอนสไตล์ Final Fantasy ที่คุณจะเรียกสิ่งมีชีวิตทรงพลังออกมา ให้พวกเขาทำอะไรเท่ ๆ สักอย่าง และจากนั้นก็จากไป ชุดสกิลนี้ทำให้หลายคนสับสนเยอะเกินไป และท้ายที่สุดเราก็เลือกเปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่นแทน”

สุดท้ายทิศทางที่ทางทีมเลือกใช้งานก็คือไอเดียจอมเวทอัจฉริยะผู้สามารถเข้าใจเวทมนตร์ทุกอย่างได้ผ่านการเห็นแค่ครั้งเดียว ใครบางคนที่สามารถใช้เวทมนตร์แบบเดียวกับคุณ ใครบางคนที่สามารถ... ขโมยสกิลอัลติเมทได้?

“มาถึงจุดนี้หลายคนก็ได้ลองทดสอบเล่นเธอแล้ว พวกเขาชอบชุดสกิลนี้เอามาก ๆ และก็รู้สึกว่าการขโมยสกิลนั้นเป็นอะไรที่น่าสนุกแบบสุด ๆ แต่เมื่อรวมทุกอย่างเข้าด้วยกันแล้ว ผลลัพธ์ที่เราได้ก็ค่อนข้างจะผสม ๆ กัน เพราะหลายคนบอกว่าการขโมยสกิลมันดูชั่วร้ายเกินไปสำหรับเธอ!” Squad5 หัวเราะ “และเราก็ไม่อยากให้เธอมีความรู้สึกเป็นวายร้ายหรือยโสโอหังอะไรแบบนั้น”

นั่นหมายความว่าทางทีมต้องตัดสินใจอย่างยากลำบาก ว่าจะเปลี่ยนชุดสกิลหรือเปลี่ยนตัวละครไปเลย ซึ่งสุดท้ายพวกเขาก็สร้างออกมาเป็น Sylas

แต่งานนั้นก็ไม่ได้สูญเปล่าเสียทีเดียว เพราะชุดสกิลของเธอกลายเป็นของ Sylas บุคลิกลักษณะส่วนหนึ่งกลายเป็น Lillia และการเรียนรู้เกี่ยวกับโลกแห่งวิญญาณที่ทีมทำไปก็ช่วยทำให้เกิดเป็น Yone, Spirit Blossom และแม้แต่ประวัติความเป็นปีศาจของ Fiddlesticks

แต่ถึงจะพูดอย่างนั้น Aurora ที่เราเคยรู้จักก็จากไปแล้ว ถูกลิขิตให้เข้าไปนอนอยู่ในโฟลเดอร์ร่วมกับ Ao Shin และแชมป์ตัวอื่น ๆ ไปตลอดกาล

จนกระทั่ง...

“ตอนที่ Riot Lexical กลายเป็นหัวหน้าทีมแชมเปี้ยน และขอให้เราเสนอไอเดียที่สนใจจะทำออกมาให้เป็นรูปเป็นร่าง และก็เป็นตอนนั้นเองที่ผมรู้ทันทีว่าเวลามาถึงแล้ว ถ้านับถึงตอนนั้นคือเราคิดถึงแชมเปี้ยนตัวนี้มา 4 ถึง 5 ปีแล้ว และเราก็มีแนวคอนเซปต์ ไอเดียเกมเพลย์ และภาพฝันเรื่องราวเตรียมเอาไว้แล้ว เธอเลยตอบมาว่า ‘โอ้ ฉันชอบกระต่ายนะ มาลองดูกัน’” Kindlejack หัวเราะ

ส่วนปัญหาอ่ะหรอ? ทางทีมต้องเริ่มใหม่ตั้งแต่ต้นไงล่ะ

โอมมะลึกกึ๊กกี๋ย ขอให้เกิดเป็นกระต่ายชาววาสทาญ่าที่ถูกต้องทีเถอะ

เมื่อคุณนึกถึงตัวละครใดตัวละครหนึ่งมาเป็นเวลากว่า 6 ปี กลายเป็นว่ามันก็ค่อนข้างยากเลยล่ะที่จะ “เริ่มใหม่ตั้งแต่ต้น”

“ฉันได้ยินเกี่ยวกับ Aurora มาตั้งแต่วันแรกที่ฉันเข้าร่วมทีม ส่วนสิ่งต่าง ๆ ที่ฉันได้ยินเกี่ยวกับเธอก็จะแบบว่า... พวกเราชอบกระต่าย พวกเราชอบความเป็นแม่มด พวกเราชอบทุกสิ่งเกี่ยวกับตัวละครตัวนี้ และเธอก็ต้องการนักเขียนเนื้อเรื่องแบบด่วน ๆ” นักเขียนเรื่องราวอาวุโส Elyse “apothecarie” Lemoine อธิบาย “ฉันรู้ดีว่า Riot Lexical อยากให้เราเริ่มใหม่ตั้งแต่ต้น แต่หลังจากได้คุยกับ Kindlejack เราก็รู้สึกจากใจจริงว่าไอเดียตัวละครแบบดั้งเดิมนั้นแข็งแรงอยู่แล้วและเราก็ควรกลับไปใช้แบบนั้น”

ผ่านมาสักพักแล้วนับตั้งแต่ที่เราสร้างตัวละครเผ่าวาสทาญ่าภายในเกม Sett คือตัวล่าสุด และนอกจากเรื่องนั้น สาวหูกระต่ายก็เป็นอะไรที่ฮอตฮิตแบบสุด ๆ

“ในภาพคอนเซปต์ชิ้นแรก ๆ ที่ผมสร้างขึ้นมาในช่วงหลายปีก่อน ตอนที่ผมวาดไอเดียออกมามากมาย มันจะมีไอเดียหนึ่งที่หลายคนชอบยกขึ้นมาพูดกับผมเสมอว่า ‘นั่นอะไรน่ะ?’” Kindlejack หัวเราะ

ภาพนั้นก็คือภาพสาวหูกระต่ายที่มีใบหน้าซ่อนอยู่ในเงา และด้วยความที่นี่เป็นโลกรูนเทอร์รา ก็ย่อมหมายความว่าเธอคือชาววาสทาญ่า

วาสทาญ่าคือสิ่งมีชีวิตที่เกิดมาพร้อมเวทมนตร์เฉพาะตัวและเป็นลูกหลานของชาววาสทาญ่าชา’เร ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากดินแดนที่ตอนนี้่รู้จักในชื่อไอโอเนีย และสักช่วงหนึ่งในอดีตก็มีเหตุการณ์เวทมนตร์บางอย่าง (ที่แปลกประหลาดนิด ๆ) เกิดขึ้นซึ่งทำให้ชาววาสทาญ่าที่เรารู้จักได้รับคุณลักษณะของสัตว์มาอยู่ในตัว (หมายเหตุจากผู้เขียน: ความจริงก็คือเป็นตอนที่เวทมนตร์ของวาสทาญ่าชา’เรไม่สามารถทำให้พวกเขาแปลงกายได้อีกต่อไป) และผลลัพธ์นั้นก็ทำให้เกิดเป็นชาววาสทาญ่า ผู้ได้รับแรงบันดาลใจจากสัตว์ในโลกจริงของเรา

Sett ได้รับแรงบันดาลใจจากตัวแบดเจอร์และวูล์ฟเวอรีน Ahri คือจิ้งจอก Xayah และ Rakan คือนก... หรือจิ้งจอกกันแน่นะ ดูเล็บพวกนั้นสิ? ดังนั้นทางทีมจึงต้องทำการค้นคว้าด้วยตัวเองเล็กน้อยเพื่อทำให้ Aurora รู้สึกเหมือนกระต่ายจริง ๆ โดยที่ไม่ได้เป็นแค่เด็กสาวน่ารักใส่หูกระต่ายและหางสายไหมทรงกลมแค่นั้น

ใช่แล้ว เธอมีขนปกคลุมจริง ๆ นะ

ชาววาสทาญ่าจะแบ่งปันคุณลักษณะทางกายร่วมกับสัตว์ต้นแบบของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นเกล็ด ขน หู กงเล็บ และแม้แต่ร่องรอยต่าง ๆ

“ตอนที่พวกเรากำลังคิดหา ‘ร่องรอยวาสทาญ่า’ เฉพาะตัวของเธอ ผมก็ชื่นชอบไอเดียรอยกระมากมายที่รวมตัวกันเป็นแพทเทิร์นเอามาก ๆ” Kindlejack อธิบาย “พวกมันเกิดขึ้นมาตามรูปแบบแผน หมายความว่ารอยพวกนี้เกิดขึ้นมาในรูปแบบที่วิทยาศาสตร์สามารถพิสูจน์ได้ แบบเดียวกับจุดบนตัวเสือดาว”

และก็เช่นเดียวกับกระปกติ ตรงที่มันสามารถเกิดในจุดอื่น ๆ ของร่างกายเธอได้ หลัก ๆ ก็คือไหล่และน่องของเธอ รอยที่คล้ายคลึงกับกระเช่นนี้ถือเป็นส่วนเสริมที่ดีมากเมื่อรวมกับผมสีแดงของเธอ ซึ่งผูกเข้ากันได้ดีมากกับการที่เธอเกิดมาในเฟรลยอร์ด

แต่ถึงอย่างนั้น ก็มีบางอย่างที่เราต้องคุยกันเพิ่ม...

“ผมไม่เคยคิดเลยว่าต้องมา Google หาภาพเท้าของมนุษย์และสัตว์ และยิ่งหลังจาก Briar อีก แต่สุดท้ายผมก็ข้ามผ่านโพรงกระต่ายมาได้ในที่สุด” Kindlejack คร่ำครวญ “สัตว์ตระกูล Lagomorph (ได้แก่: กระต่าย กระต่ายป่า และไพก้า) คือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมไม่กี่ชนิดที่มีขนขึ้นปกคลุมเท้า แถมพวกมันยังไม่มีอุ้งเท้าด้วยนะ! เพราะอย่างน้อยผมก็อยากวาดให้เท้าถูกต้องจริง ๆ น่ะ”

ไม่เหมือนกับชาวบรินนีคนอื่น ๆ Aurora นั้นยืนด้วยเท้าหน้าอยู่ตลอดเวลา

Aurora คือชาววาสทาญ่าที่เป็นสัตว์ผู้ถูกล่าตัวแรกของเรา (หมายเหตุจากผู้เขียน: Squad5 ยังคงดึงดันว่าปลาเองก็ไม่ควรนับว่าเป็นสัตว์นักล่า แต่ก็ยอมรับว่าเขาเองก็ยังไม่เคยถูกปลากัดเช่นกัน) ดังนั้นจึงเกิดเป็นคำถามสุดพิเศษขึ้นมา... สัตว์ที่ถูกล่าควรจะมีภาพฝันเกมเพลย์เป็นอย่างไร?

“ผมคิดหนักมากว่าสัตว์ที่ถูกล่าจะต่อกรกับสัตว์ผู้ล่าได้อย่างไร พวกเขามักจะไม่ได้เอาชนะแบบตรง ๆ แต่ใช้การล่อลวงและหลบหนีแทน และผมก็อยากนำสิ่งนั้นเข้ามาใช้ในเกมเพลย์ของ Aurora” Squad5 อธิบาย

Aurora นั้นทั้งจับตัวยากและรวดเร็ว ก็คือตัวเบานั่นแหละ ดังนั้นแทนที่จะยืนอยู่เฉย ๆ ต่อกรกับศัตรู เธอจึงเลือกที่จะเอาชนะด้วยกลอุบาย ใช้ความว่องไวปานกระต่ายของเธอในการกระโดดไปมาอยู่ขอบไฟต์และใช้เล่ห์เหลี่ยมเอาชนะคู่ต่อสู้ในท้ายที่สุด

แต่เรายังมีปัญหาอยู่ นั่นก็คือชาววาสทาญ่าส่วนใหญ่นั้นมีบ้านเกิดอยู่ที่ไอโอเนีย และแม้ว่ามันจะเจ๋งก็เถอะ แต่มันก็แบบ... น่าเบื่ออ่ะ Aurora จึงต้องการบ้านเกิด เรื่องราว และการเชื่อมโยงกับเวทมนตร์แห่งวาสทาญ่าที่ไหลเวียนอยู่ในตัวที่แตกต่างออกไป

แม่มดชาวเฟรลยอร์ด

Aurora คือชาวบรินนี ชาววาสทาญ่าที่มีรูปลักษณ์เหมือนกระต่าย และก็เหมือน ๆ กับชาววาสทาญ่าคนอื่นอีกหลายคน ตรงที่พวกเขาเองก็มีบ้านเกิดอยู่ที่ส่วนอื่นของรูนเทอร์รา และครั้งนี้คือเฟรลยอร์ด

“ชาววาสทาญ่าไม่ได้อาศัยอยู่แค่ในไอโอเนียเท่านั้น พวกเขามีอยู่ทุกที่เลย” apothecarie อธิบาย “เราจึงคิดว่า Aurora เป็นโอกาสชั้นเยี่ยมที่จะได้ลองมองไปยังชีวิตของชาววาสทาญ่าที่อยู่ภายนอกไอโอเนีย และมีความเชื่อมโยงน้อยกว่ากับแหล่งกำเนิดเวทมนตร์ดั้งเดิมของพวกเขา”

ชาวบรินนีนั้นอาศัยอยู่ได้ดีในสภาพอากาศแสนโหดร้ายของเฟรลยอร์ด แต่พวกเขาก็ไม่ใช่นักรบหรือจอมเวท ไม่เหมือนกับชาววาสทาญ่าเผ่าอื่น ๆ อย่างเวซานี ล็อตลัน หรือคีลาช ชาวบรินนีนั้นเลือกที่จะแยกตัวออกจากวาสทาญ่าเผ่าอื่น ๆ กลับกัน พวกเขาเลือกที่จะใช้เวลาไปกับการทำฟาร์มในดินแดนป่าสนของเฟรลยอร์ดแทน แต่ถึงอย่างนั้น เวทมนตร์วาสทาญ่าประจำตัวของพวกเขาก็ไม่ได้หายไปเลยสักทีเดียว มันแค่แสดงผลในรูปแบบที่ต่างไปเท่านั้น แบบเดียวกับแครอทที่ยังไม่ถึงเวลาสุกงอมอะไรแบบนั้น และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของ Aurora

“เธอเกิดมาพร้อมกับความสามารถในการเชื่อมโยงกับโลกแห่งวิญญาณ ซึ่งสูญหายไปจากผู้คนของเธอมาเป็นเวลานานแสนนาน” apothecarie กล่าว “เธอต่างจากชาวบรินนีคนอื่น ๆ เพราะเธอสามารถมองเห็นวิญญาณและปฏิสัมพันธ์กับโลกแห่งวิญญาณได้โดยตรง”

Aurora ไม่ได้ถูกสอนวิธีการใช้เวทมนตร์ของเธอ เธอจึงต้องเรียนรู้ทุกอย่างด้วยตัวเองผ่านการลองผิดลองถูกเป็นเวลาหลายปี เพื่อสร้างออกมาเป็นตำราเวทสุดพิเศษสำหรับเธอเพียงคนเดียว

“คำว่าแม่มดนั้นมีการนำมาปรับใช้และแปลงโฉมใหม่มากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และเราเองก็อยากเน้นไปที่ภาพของแม่มดชนบทสไตล์โมเดิร์นผู้เน้นไปที่จิตวิญญาณ มากกว่าที่จะเป็นแม่มดนอกรีตหรือมนตร์ดำอะไรแบบนั้น” Kindlejack กล่าว

“เวทมนตร์ของ Aurora คือสิ่งที่เธอเรียนรู้และสั่งสมด้วยตัวเธอเอง ดังนั้นผมจึงอยากให้องค์ประกอบภาพมีความพิเศษแตกต่างไปจากเวทมนตร์ที่ชาววาสทาญ่าคนอื่น ๆ ใช้ มันจะค่อนข้างแตกต่างและมีโทนสีค่อนข้างมืดเพื่อเอาไว้ใช้ตัดกับความน่ารักสไตล์กระต่าย และผมยังได้ลองค้นคว้าศิลปะของชาวฮินดูและตะวันออกกลางดั้งเดิมบางส่วน และนำมันเข้ามาผสานรวมกับอักษรรูนของเฟรลยอร์ดและดีไซน์ตัวอักษรต่าง ๆ ด้วย”

องค์ประกอบเวทมนตร์สุดพิเศษของ Aurora สามารถเห็นได้ทั้งในคทา เสื้อผ้า ตุ้มหู และเวทมนตร์ของเธอ

“หากคุณนึกถึงคำว่าแม่มด แม้แต่แม่มดที่เป็นคนดี ภาพที่พวกคุณเห็นก็มักจะมีความลึกลับและมีความเป็นปริศนาในความมืดอะไรแบบนั้น ซึ่งจะมีความแตกต่างไปจากความเป็นพ่อมด จอมเวท หรืออาร์คีไทป์เวทมนตร์อื่น ๆ” Squad5 กล่าว “สกิล Q ของเธอคือตัวอย่างชั้นดีของเรื่องนั้น ง่าย ๆ เลยก็คือเธอจะร่ายคำสาปใส่คุณ ก่อนที่จะเสริมพลังและใช้สิ่งนั้นเพื่อสังหารคุณ ก็คือเธอจะกระชากวิญญาณส่วนหนึ่งของคุณออกมานั่นแหละ”

สกิลอัลติเมทของเธอซึ่งแน่นอนว่าเน้นไปที่ภาพฝันกระต่ายขี้เล่นอย่างที่ Squad5 ต้องการ ก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจากพื้นที่ของเกมอื่นเช่นกัน

“การหลงอยู่ใน Lost Woods ในเกม Zelda นั้นถือเป็นประสบการณ์ที่จำไม่ลืมของผมเลยล่ะ” Squad5 หัวเราะ “ผมจึงอยากให้สกิลอัลติของเธอให้ความรู้สึกแบบเดียวกัน หากคุณคิดที่จะหนี คุณก็จะถูกเทเลพอร์ตกลับมายังจุดศูนย์กลาง และไม่มีทางหลีกพ้นเวทมนตร์ของเธอได้”

ก้าวผ่านทะลุมิติ

“เราชอบมาก ๆ ที่แชมเปี้ยนใหม่สามารถเข้าไปสำรวจพื้นที่ซึ่งยังไม่เคยมีใครเข้าไป” Kindlejack กล่าว “แชมเปี้ยนทุก ๆ ตัวควรจะช่วยฉายแสงเล็กน้อยไปยังส่วนของโลกที่พวกเรายังไม่เคยได้พบเห็น และเราก็ยังไม่ได้เข้าไปสำรวจโลกแห่งวิญญาณมากขนาดนั้น แน่นอนว่าเราเคยเห็นมันแล้ว แต่เรายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเกี่ยวโยงกับรูนเทอร์ราหรือไม่ หรือมีสิ่งชีวิตแบบไหนอาศัยอยู่ข้างใน”

โลกแห่งวิญญาณคือสถานที่แสนน่าสนใจ มันคือแหล่งพลังของชาววาสทาญ่า ที่อยู่ถาวรของ Alune และที่ซึ่ง Mordekaiser เทเลพอร์ตคุณเข้าไปในตอนที่เขาพาคุณไปที่นี่บราซิลในสกิลอัลติเมท (อะไรแบบนั้น)

“โลกวิญญาณทำหน้าที่คล้ายกับอีกชั้นหนึ่งของโลกมนุษย์ที่พวกเราเห็นในรูนเทอร์รา และสิ่งที่เราเห็นส่วนใหญ่เกี่ยวกับโลกวิญญาณก็มักจะอยู่ที่ไอโอเนีย ซึ่งมีความสัมพันธ์แบบพึ่งพากันและกันกับเหล่าวิญญาณทั้งหลาย ตอนที่ฉันเขียนเนื้อเรื่องให้ Spirit Guard Udyr ฉันก็ได้คุยหลายอย่างกับนักเขียนอีกคนว่าดวงวิญญาณและโลกแห่งวิญญาณในเฟรลยอร์ดนั้นมีหน้าตาเป็นอย่างไร” apothecarie ย้อนความจำ

แต่โลกนี้ไม่ได้แค่ทับซ้อนกันเท่านั้น มันยังสะท้อนส่วนต่าง ๆ ของโลกรูนเทอร์ราด้วย จิตวิญญาณในไอโอเนียส่วนใหญ่รู้จักแต่ความสงบ (จนกระทั่งสงครามกับน็อกซัส ซึ่งทำให้เกิดปีศาจอาซาคานะขึ้นมา) แต่จิตวิญญาณของเฟรลยอร์ดนั้นต่างออกไป... พวกมันดุร้ายกว่า

“พวกเราช่วยกันค้นคว้าเยอะเลยล่ะเพื่อจะได้รู้ว่าผู้อยู่อาศัยในโลกวิญญาณนั้นควรเป็นอย่างไร จริง ๆ ก็คือฉันได้ลองทำรายชื่อหลาย ๆ สิ่งที่อาจมีสิทธิ์นับว่าเป็นวิญญาณ และไปคุยกับทีมเนื้อเรื่องเพื่อให้รู้แน่ชัดว่าอะไรกันแน่ที่ควรเป็นหรือไม่เป็นวิญญาณบ้าง Kindred ล่ะ? ใช่ พวกเขาเป็นวิญญาณ Volibear ล่ะ? นี่ก็วิญญาณโบราณ ถ้างั้นอะไรเกี่ยวกับ Bard? ไม่ใช่วิญญาณหรอกนะ”

จิตวิญญาณจะดึงเอารูปลักษณ์ทางกายภาพของสิ่งมีชีวิตในเฟรลยอร์ดมาเป็นของตัวเอง แต่พวกเขาไม่ใช่ดวงวิญญาณของสัตว์หรือผู้คนที่ตายไปหรอกนะ

Aurora มองไปยังเหล่าวิญญาณแห่งเฟรลยอร์ด ผู้ที่ในแวบแรกอาจจะดูน่ากลัวและไม่น่าเข้าใกล้ ด้วยสายตาประหนึ่งว่าพวกเขาเป็นสิ่งมีชีวิตตัวเล็กน่ารักที่ต้องได้รับการเอาใจใส่และปกป้อง ไม่ใช่สัตว์ประหลาดที่ต้องหวาดกลัวหรือกำจัดให้สิ้น

เธอรู้สึกดีที่สุดเมื่อได้อยู่ใกล้พวกเขา พวกเขาเป็นทั้งความหลงใหล ความสนใจพิเศษ และสหายของเธอ

“ถ้าให้พูดตามประสบการณ์ส่วนตัว การโต้ตอบกับจิตวิญญาณของ Aurora ก็เหมือนตอนที่ผมเล่นกับสัตว์ต่าง ๆ” Kindlejack พูดพลางยิ้ม “ผมเป็นพวกที่มักจะไม่สนใจผู้คนในปาร์ตี้และเน้นไปเล่นกับแมวหรือหมาแทน ไม่ใช่ว่าผมรู้สึกเชื่อมโยงกับสัตว์เพราะพวกเขามีคลื่นความถี่ที่ต่างไปหรอกนะ แต่พวกเขาแค่เข้าใจง่ายและไม่แปรปรวนเท่าผู้คนก็เท่านั้น”

“Aurora ไม่ใช่คนหัวรุนแรง แต่ถ้าหากมีใครเข้ามายุ่มย่ามกับจิตวิญญาณ เธอก็จะเริ่มค้นคว้าและเตรียมพร้อมเตะก้นคุณให้กระเด็น” apothecarie หัวเราะ

นับตั้งแต่วันที่เธอเกิดมา Aurora ก็สามารถมองเห็นจิตวิญญาณและปฏิสัมพันธ์กับพวกเขาได้ภายในโลกของเธอ และนับจากจุดนั้น เธอก็เริ่มเรียนรู้ที่จะเข้าไปยังโลกแห่งวิญญาณ

บางครั้ง Aurora มักรู้สึกว่าโลกแห่งมนุษย์นั้นหนักหนาเกินไป ฝูงชนมากมาย เสียงอึกทึก บทสนทนายาวเหยียด และการปฏิสัมพันธ์เป็นกลุ่มคือสิ่งที่เธออ่อนไหวเป็นพิเศษ และเมื่อเธอรู้สึกหนักหนาเกินไป เธอก็มีทางหนีแสนง่ายดาย นั่นก็คือโลกแห่งวิญญาณ

เวลาหลายต่อหลายปีที่เธอศึกษาเรื่องนี้ทำให้เธอสามารถกระโดดเข้าและออกจากโลกวิญญาณได้อย่างง่ายดาย หรือไม่ก็ด้วยการช่วยเหลือจากพิธีกรรมเล็กน้อย (แรงบันดาลใจจากพิธีกรรมในโลกจริง) ดังนั้นเมื่อเธอรู้สึกถูกถาโถมโดนข้อมูลแสนอ่อนไหว เธอก็สามารถหลบหนีได้อย่างรวดเร็ว

Aurora ต้องการที่จะช่วยจิตวิญญาณทุกดวง ไม่ว่าจะเป็นครึ่งเทพแสนทรงพลังอย่าง Volibear, Ornn หรือสิ่งมีชีวิตไร้ชื่อ เธอก็พร้อมยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือเสมอ

ในโลกจริงเรามีคำที่เอาไว้ใช้นิยาม Aurora นั่นก็คือ "เพ้อฝัน (autistic)" แต่ในโลกรูนเทอร์รากลับไม่มีคำที่สามารถใช้นิยามเธอได้ เพราะเธอก็คือ Aurora

สมาชิกหลายคนในทีมพัฒนา Aurora และรวมถึง Riot ในภาพรวมนั้นมีแรงบันดาลใจที่จะแบ่งปันประสบการณ์ของพวกเขาในฐานะผู้คนที่เป็นแบบเดียวกัน เพราะสำหรับพวกเขานี่คือโอกาสที่จะนำส่วนหนึ่งในชีวิตของตัวเองเข้าสู่ตัวเกมที่พวกเขารัก

“มันแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะนำเสนอประสบการณ์เพ้อฝันของทุกคนเนื่องจากมันถือเป็นคลื่นความถี่อย่างหนึ่ง เพราะทุกคนต่างก็เคยประสบพบเจอมันในรูปแบบที่ต่างไป” apothecarie อธิบาย “มีหลายสิ่งเลยที่พวกเราหลายคนอยากนำเสนอ ไม่ว่าจะเป็นการเดินเขย่งเท้า ซึ่งเป็นอะไรที่เห็นได้ทั่วไปสุด ๆ! แต่เราก็รู้ดีว่านั่นไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนทำกันเสมอไป และเราก็ไม่ได้อยากที่จะนำเสนอแค่ประสบการณ์เพ้อฝันทั่วไปที่พวกเราเคยมีเท่านั้น แต่เป็นประสบการณ์พื้นฐานส่วนใหญ่มากกว่า ซึ่งถือเป็นการทำงานปกติของสมอง หรือก็คือวิธีที่เราใช้มองโลกใบนี้ พวกเราไม่จำเป็นต้องทำอย่างที่ผู้อื่นคาดหวังเสมอไป และนั่นแหละคือสิ่งที่เราอยากจะฉายแสงให้เห็นผ่านตัว Aurora เพราะเธอไม่ควรจะทำตามความคาดหวัง”

แต่เธอควรจะสร้างมันขึ้นมาใหม่ต่างหาก

เมื่อหนึ่งการเดินทางจบลง การเดินทางใหม่ก็เริ่มต้นขึ้น

การพัฒนา Aurora นั้นใช้เวลาหลายต่อหลายปี ไปกับปีแห่งการคิด การวาด การเขียน และการออกแบบ

“มันสนุกมากเลยที่ได้มองย้อนกลับไปยังทุก ๆ สิ่งที่เราใส่ลงไปใน Aurora ตอนที่ Squad5 และผมเริ่มมีไอเดียเกี่ยวกับแชมเปี้ยนตัวนี้ เราก็หวังว่าเธอจะเป็นแชมเปี้ยนตัวแรกที่พวกเราได้สร้าง และตอนนี้หลังผ่านแชมเปี้ยนมาสี่หรือห้าตัว ในที่สุดเราก็ได้มารวมตัวกันเพื่อทำตามสัญญาดั้งเดิมเสียที” Kindlejack ย้อนความหลัง “แต่แทนที่จะร่วมกันสร้างที่จุดเริ่มต้นของการผจญภัย ตอนนี้พวกเรากลับมาพบกันที่ยอดภูเขาแทน”

และแม้ว่าส่วนนี้ในเรื่องราวของเธอจะจบลง แต่เรื่องราวบทถัดไปก็ยังคงรอทุกคนเข้ามาขีดเขียนกันต่อไป