เจาะลึกแชมเปี้ยน: Naafiri

ไร้ซึ่งจ่าฝูง มีเพียงฝูงรวมเป็นหนึ่ง

พวกเราเคยผ่านกันมาทั้งนั้น วันเวลาที่คุณหลุดออกมาจากการโดนยำเละในคิว Solo จากนั้นก็ตัดสินใจออกไปเดินเล่นข้างนอกเพื่อสูดอากาศและรีเซ็ตอารมณ์ มันเป็นวันที่อากาศร้อนและห้องของคุณก็สุดแสนจะอึดอัด

ขณะที่พระอาทิตย์กำลังตกดิน ไออุ่นยามพลบค่ำก็เริ่มหลีกทางให้กับค่ำคืนแสนเย็นเยียบไปพร้อมกับไฟข้างทางที่เริ่มส่องแสงพึมพำ ไม่มีใครอยู่ข้างนอกเลย ช่างน่าประหลาดเกินไปสำหรับค่ำคืนแบบนี้

คุณเดินผ่านไปสองช่วงตึกจากนั้นก็พลันเห็นตัวอะไรบางอย่างอยู่ข้างหน้า มันซุ่มหลบตัวอยู่ในเงากิ่งก้านของต้นโอ๊คที่ถูกกลืนทับไปกับแสงไฟบนถนน เมื่อคุณเยื้องย่างเข้าใกล้ คุณก็เริ่มสังเกตเห็นดวงตาประกายสองดวง สายตาของมันดูจะจ้องมาหาคุณ

เมื่อคุณขยับเข้าใกล้ ดวงตานั้นก็ยิ่งก้มมองต่ำลง ไม่นานคุณก็เริ่มมองเห็นว่าร่างกายของมันมีสัดส่วนในแนวเดียวกับลำตัว ทั้งยังเชื่อมต่อกับขาทั้งสี่ข้าง ชัดเจนแล้วว่าดวงตาเหล่านี้ถูกซ่อนอยู่ภายในตะกร้อครอบปาก

มันคือสุนัข! สงสัยคงเป็นหมาโกลเด้นที่เพื่อนบ้านของคุณปล่อยหลุดออกมา มันก้มหัวลง เป็นสัญญาณของการยอมจำนนและความไม่มั่นใจ บางทีมันอาจจะกลัว

คุณขยับเข้าไปใกล้อีกนิด ก่อนที่จะรู้สึกตัวว่ามีเงาตะคุ่มอีกสี่ห้าเงาพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วจากรอบข้างเกิดเป็นขบวนทัพล้อมรอบสุนัขตัวแรก

คุณคิดขึ้นมาได้ทันทีก่อนที่สติจะหลุดเตลิดเปิดเปิงว่า เจ้าสุนัขไม่ได้ก้มหัวเพราะความกลัว มันกำลังเตรียมออกวิ่งต่างหาก และตัวอื่นก็เช่นกัน รวมถึงคุณด้วย

พลาดครั้งใหญ่แล้วไงล่ะ

สร้างสรรค์แชมเปี้ยนเจ้าตูบตัวตึง

ตัวอย่างงานศิลป์สำหรับ Naafiri ดูดวงตาอันหิวกระหายนั่นสิ...
ตัวอย่างงานศิลป์สำหรับ Naafiri ดูดวงตาอันหิวกระหายนั่นสิ...

ก่อนที่ Naafiri จะออกมาเป็นรูปเป็นร่างภายใต้ความรุ่งโรจน์อันชั่วร้ายของเธอ เธอก็เริ่มต้นมาในแบบเดียวกับแชมเปี้ยนตัวอื่นอีกมากมาย: นั่นก็คือเริ่มจากเป้าหมายในการออกแบบ ในกรณีของเจ้าตูบดาร์คินตัวใหม่นี้ ทีมแชมเปี้ยนก็มีช่องว่างด้านเกมเพลย์เฉพาะตัวที่พวกเขาอยากจะเติมเต็มอยู่แล้ว

“ย้อนกลับไปสักพัก หัวหน้าทีมออกแบบแชมเปี้ยนของเรา August Browning ได้ทำการวิเคราะห์กลุ่มแชมเปี้ยนทั้งหมด และจัดหมวดหมู่แชมเปี้ยนแต่ละตัวออกเป็นตำแหน่ง คลาส และความยาก เพื่อที่จะมองหาพื้นที่สร้างสรรค์ใหม่ ๆ สำหรับผู้เล่น” นักออกแบบเกม Glenn “Riot Twin Enso” Anderson กล่าว “และสุดท้ายเขาก็พบกับช่องว่างในสองเรื่องใหญ่ ๆ นั่นก็คือการขาดไปของแทงค์ที่ต้องใช้ทักษะระดับสูง ซึ่งกลายมาเป็น K’Sante และมือสังหารที่ค่อนข้างเรียบง่ายและเป็นมิตรกับมือใหม่ ซึ่งก็คือ Naafiri”

นอกจากนั้นจากการสำรวจเพิ่มเติมในครั้งนี้ ทางทีมก็ได้ตระหนักว่ามันก็ผ่านมานานมากแล้วที่พวกเขาไม่ได้เปิดตัวแชมเปี้ยนสัตว์ประหลาดแบบจริง ๆ เลย นอกเหนือจาก Bel’Veth ผู้ที่คร่อมอยู่ระหว่างเส้นแบ่งของกึ่งมนุษย์และมอนสเตอร์วอยด์รูปร่างกระเบน ซึ่งถ้าพูดตามจริง เราก็มีแชมเปี้ยนสัตว์ประหลาดนับไม่ถ้วนอยู่แล้วใน League แต่ทางทีมก็ยังอยากหาสิ่งมีชีวิตในจินตนาการที่ไม่ใช่มนุษย์ที่มีทั้งความเด่นและความเป็นตัวเอง และหลังจากระดมความคิดอยู่หลายครั้ง ทางทีมก็เห็นตรงกันว่า League ยังขาดตัวแทนแชมเปี้ยนในรูปแบบสุนัขอย่างแท้จริงอยู่ Nasus และ Warwick นั้นใกล้เคียง แต่พวกเขาก็ดูเป็นมนุษย์มากกว่าสุนัขล่าเนื้อ

ผู้เล่นควรจะรู้สึกทรงพลังเมื่อเลือกเล่นมือสังหาร และคู่ต่อสู้ก็ควรรู้สึกกระวนกระวายและสั่นกลัวเมื่อมีมือสังหารตัวนั้นใน Rift และก็มีเพียงไม่กี่สิ่งที่ทำให้เกิดความกลัวได้เท่ากันกับการถูกไล่ล่าโดยสุนัขจรจัดที่ไม่รับแขกอีกแล้ว

“ใครก็ตามที่เคยเจอประสบการณ์ไม่ดีเกี่ยวกับสุนัขมักจะรู้ดีว่าการวิ่งหนี อาจทำให้สถานการณ์ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่” John “JohnODyin” O’Bryan หัวหน้านักออกแบบเนื้อเรื่องหลักของ Naafiri หัวเราะ “การวิ่งทำให้สุนัขตื่นเต้นมากขึ้น และยิ่งอยากทำให้มันวิ่งทันพลังของคุณ เราจึงอยากสร้างแชมเปี้ยนที่สามารถสื่อถึงประสบการณ์แบบนั้นได้ เจ้าหมาที่ต้องการให้บางสิ่งออกวิ่ง เมื่อ Naafiri เห็นสิ่งใดวิ่งหนี สัญชาตญาณสี่ขาของเธอก็จะเริ่มเข้าครอบงำ”

แต่ Naafiri ไม่ใช่เจ้าตูบตัวเดียวที่ไล่ล่าคุณ เธอจะวิ่งโถมไปฟร้อมกับฝูง ฝูงที่ออกล่าด้วยกัน คิดร่วมกัน และมีชีวิตรอดในทะเลทรายชูริม่าอันโหดร้ายไปด้วยกัน ฝูงที่ตอนนี้แบ่งปันจิตสำนึกร่วมกับเทพเจ้านักรบดาร์คินโบราณ

ภาพคอนเซ็ปต์ช่วงต้นของฝูงสุนัขปีศาจดาร์คิน
ภาพคอนเซ็ปต์ช่วงต้นของฝูงสุนัขปีศาจดาร์คิน

“ผมจำได้ถึงเรื่องที่เคยคุยกับเพื่อนแล้วมีใครสักคนหนึ่งพูดบางอย่างที่น่าสนใจออกมา” Riot Twin Enso เสริม “สุนัขแค่หนึ่งตัวไม่น่ากลัวเท่าไหร่หรอก เวลาคุณเห็นหมาป่าโคโยตี้แค่ตัวเดียวคุณก็ไม่ได้กลัวขนาดนั้นใช่มะ แต่คุณกลัวฝูงของมันต่างหาก ความจริงที่ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณหันหลัง อีกตัวหนึ่งจะวิ่งเข้าหาคุณทันที ดังนั้นเราจึงเริ่มสำรวจองค์ประกอบต่าง ๆ ต่อยอดจากจุดนั้น”

แล้วดวงวิญญาณของดาร์คินตนเดียวจะกระจัดกระจายไปอยู่ในร่างสุนัขล่าเนื้อทะเลทรายทั้งฝูงได้ยังไง?

เช่นเดียวกับดาร์คินตัวอื่น ดวงวิญญาณของ Naafiri นั้นถูกผูกติดไว้กับอาวุธ ในกรณีของเธอ อาวุธนั้นคือมีดขว้างโบราณ ที่ถูกกักขังและฝังลืมอยู่ในสุสานใต้ผืนทะเลทราย และหลังจากที่หัวขโมยสุสานนำมีดนั้นออกจากหลุม Naafiri ก็โล่งใจที่เธอจะได้พบหนทางในการล้างแค้นเสียที ว่าผู้มาเยือนที่ไม่ได้รับเชิญจะสัมผัสคมมีด และเผลอพลั้งปล่อยตัวแก่สัมผัสเวทมนตร์ดาร์คินของเธอ แต่ชายคนนั้นกลับรู้ดีว่าเขาได้ครอบครองสิ่งใด เขาระมัดระวังเป็นอย่างมากที่จะไม่แตะต้องคมมีดหรือด้ามจับ เพื่อหลีกเลี่ยงการกลายเป็นภาชนะกายหยาบใหม่ให้กับ Naafiri

ภาพคอนเซ็ปต์ดั้งเดิมสำหรับมีดของ Naafiri ดูแต่ตา มืออย่าต้อง
ภาพคอนเซ็ปต์ดั้งเดิมสำหรับมีดของ Naafiri ดูแต่ตา มืออย่าต้อง

อาจจะฟังดูย้อนแย้ง แต่สุดท้ายความพยายามไม่สัมผัสคมมีดของเขาก็นำพาเขาไปสู่ความตายอยู่ดี เพราะขณะที่ชายหนุ่มเดินทางออกจากสุสานข้ามผ่านเนินทรายแห่งชูริม่า เขาก็ดันถูกล่าโดยฝูงสุนัขล่าเนื้อทะเลทรายที่สุดแสนจะหิวโหย พวกมันฉีกกระชากร่างเขา ม้าของเขา และของมีค่าทั้งหมดจนไม่เหลือชิ้นดี และมีดนั่นก็ได้พบกับบ้านใหม่ในที่สุด

บัดนี้ดวงวิญญาณดาร์คินที่สถิตอยู่ในมีดได้ตื่นขึ้นมาภายในฝูง ทั้งถูกเสริมพลังด้วยจิตร่วมที่พวกเขาแบ่งปันร่วมกัน โดยเศษซากที่ยังเหลือของมีดสามารถมองเห็นได้ผ่านรูปร่างรอบ ๆ ปลอกคอของ Naafiri รวมถึงบนจมูกของสหายร่วมฝูงของเธอ

“เมื่อผู้คนคิดถึงภาพของสุนัข/หมาป่า โดยส่วนใหญ่แล้วพวกเขามักจะคิดถึงแนวคิดดั้งเดิมที่ว่าฝูงเหล่านั้นจะต้องมีจ่าฝูง” Elan “Qulani” Stimmel บรรณาธิการเนื้อเรื่องอธิบาย “เราไม่อยากโฟกัสไปที่แนวคิดจ่าฝูง แต่เราอยากที่จะโฟกัสไปที่การเกื้อกูลกันของทั้งฝูงมากกว่า”

นี่คือจุดที่ทำให้ Naafiri เริ่มแตกต่างจากดาร์คินตนอื่น ๆ ในรูนเทอร์รา ในตอนแรก เธอก็คับแค้นใจที่ดวงวิญญาณของเธอต้องมาติดอยู่ท่ามกลางฝูงสุนัข แต่ไม่นานเธอก็ได้เรียนรู้ว่าสายสัมพันธ์ที่เหล่าสุนัขแบ่งปันกันคือสิ่งที่ทำให้พวกมันอยู่รอดและเติบโตในสภาพอากาศอันสุดแสนจะเลวร้ายนี้ เธอรู้ดีว่ามีบางสิ่งที่ดาร์คินสามารถเรียนรู้ได้จากฝูงใหม่ของเธอ

“มันคล้าย ๆ กับการตื่นรู้อันชั่วช้า หรือการปล่อยวางความคิดเรื่องการมีตัวตน แต่แค่ Naafiri มีจุดประสงค์ชั่วร้ายเป็นทุนเดิมก็เท่านั้น” JohnODyin หัวเราะ “เธอต้องการให้ดาร์คินกลับมาเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทรงอำนาจที่สุดในรูนเทอร์รา การกำจัดอัตตาเพื่อความชั่วร้ายจึงกลายเป็นวิธีการไปสู่จุดนั้น”

หนึ่งดวงจิต กระจายอยู่ท่ามกลางภาชนะ

ด้วยความที่รอยเท้า (เอ่อ หรือรอยอุ้งเท้า) ของ Naafiri นั้นจะยิ่งทวีคูณเพิ่มมากขึ้นภายในเกม Riot Twin Enso และ Stephen “Riot Raptorr” Auker ผู้จัดการฝ่ายออกแบบเกม จึงต้องทำให้มั่นใจว่าเธอจะยังคงไว้ซึ่งเกมเพลย์มือสังหารที่ทั้งเรียบง่ายและเข้าใจง่าย สกิลของ Naafiri ต้องทั้งทรงพลัง แต่เข้าถึงได้ง่าย เธอควรจะต้องพึ่งพาสหายร่วงฝูงในการช่วยรับประกันการคิล ดังนั้น เจ้าตูบตัวอื่นของเธอจึงต้องมี AI ใหม่ที่ฉลาดมากขึ้น

“การทำให้แน่ใจว่าสุนัขล่าเนื้อตัวอื่นในฝูงจะทำได้อย่างที่คาดหวังนั้นสำคัญมาก” Riot Raptorr กล่าว “เราไม่อยากให้พวกมันรู้สึกเหมือนมินเนี่ยนไร้ความคิดแบบผีดิบของ Yorick หรือกระเบนน้อยของ Bel'Veth เราอยากให้พวกมันรู้สึกเป็นเพื่อนร่วมฝูงที่สามารถช่วยคุณได้จริง ๆ และมีความหมายกับคุณไปตลอดทั้งเกม”

คอนเซ็ปต์สำหรับสกิล R ของ Naafiri - The Call of the Pack และสกิลอื่น ๆ ที่เหลือของเธอจะถูกเสริมพลังโดยสหายร่วมฝูงเพิ่มเติม
คอนเซ็ปต์สำหรับสกิล R ของ Naafiri - The Call of the Pack และสกิลอื่น ๆ ที่เหลือของเธอจะถูกเสริมพลังโดยสหายร่วมฝูงเพิ่มเติม

Naafiri ถูกออกแบบมาให้เล่นง่าย แต่บางครั้งการทำบางอย่างให้ออกมาง่ายนั้นก็เป็นงานยากเหลือเกิน ดังนั้น Riot Raptorr จึงเริ่มเขียนดีไซน์เบื้องต้นสำหรับเกมเพลย์ที่ต้องการของ Naafiri ลงในเอกสาร และมองขอความช่วยเหลือไปยังทีมวิศวกกรรมซอฟต์แวร์ของเรา Naafiri ต้องพึ่งระบบเชิงเทคนิคเพื่อที่จะรับมือกับความท้าทายเฉพาะในการสร้างเธอ ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนอยู่ในโค้ดเบื้องหลังเกมและสเปคขั้นต่ำที่ทำให้ League กลายเป็นเกมที่เข้าถึงได้สำหรับฐานผู้เล่นที่หลากหลายมากมาย

“จากเอกสารของ Stephen เราก็ได้เริ่มมองหาฟีเจอร์คล้ายกันในเกมอื่น ๆ และอ่านเอกสารตีพิมพ์ต่าง ๆ เกี่ยวกับพฤติกรรมการเคลื่อนไหวแบบเป็นฝูงว่ามันทำงานได้อย่างไร” Matteo “Riot Chibattabun” Mannino วิศวกรซอฟต์แวร์อธิบาย “เรารู้ดีว่าสหายร่วมฝูงนั้นจะต้องเคลื่อนไหวได้อย่างถูกต้อง ตอบสนองต่อคำสั่งโจมตีได้อย่างรวดเร็ว คอยอยู่ในระยะที่เหมาะสม โจมตีเป้าหมายได้ถูกต้อง และแน่นอนว่าต้องไม่ไปขวางรูปแบบการเล่นของมือสังหาร”

ดังนั้น Stephen และทีมวิศวกรจึงได้สร้างเทคโนโลยีใหม่สุดวุ่นวายขึ้นมาสำหรับ Naafiri และฝูงของเธอ แต่ก็ยังคงยืดหยุ่นมากพอสำหรับการเปลี่ยนแปลงเกมเพลย์ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต

“ความยากหลัก ๆ ก็คือการนำความรู้สึกของฝูงยูนิตในเกมแนว RTS เข้ามาอยู่ใน League ในขณะที่ทำให้แชมเปี้ยนตัวนี้เล่นง่ายไปพร้อมกัน” Riot Chibattabun เสริม “ด้วยเทคนิคใหม่นี้ เราเลยมาจบในจุดตรงกลางระหว่างรูปแบบการรบใน Age of Empires เพื่อให้ควบคุมตำแหน่งของ Naafiri ในฝูงได้โดยง่าย และกลไกการเคลื่อนไหวแบบรวดเร็วใน Starcraft II”

ศิลปะของสรรพสัตว์

ในขณะที่ไอเดียเรื่องฝูงสุนัขส่งผลให้เกิดความท้าทายอันน่าตื่นเต้นในแง่จุดยืนด้านวิศวกรรมและการออกแบบ ผู้กำกับศิลป์ Gem “Lonewingy” Lim ก็ตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่จะได้มีโอกาสสร้างแชมเปี้ยนสัตว์ประหลาดอีกครั้ง หลังจากที่เขาได้สร้างแชมเปี้ยนมนุษย์สุดงดงามมามากมายอย่าง Qiyana, Zeri, Sett รวมถึง Kayle และ Evelyn เวอร์ชันรีเวิร์ค ซึ่งนี่เป็นแค่บางส่วนเท่านั้น

“เราเลือกธีมสุนัขเพราะมันสามารถแสดงภาพสิ่งมีชีวิตแฟนตาซีได้อย่างชัดเจน” Lonewingy กล่าว “ผู้คนมากมายเลี้ยงสุนัข ทั้งคนที่เป็นเกมเมอร์และคนที่ไม่ได้เป็น ดังนั้นเราจึงต้องสำรวจถึงต้นแบบสุนัขที่แตกต่างออกไป รวมถึงพันธุ์ที่แตกต่างกันด้วย”

ระหว่างการสำรวจนี้ Lonewingy และทีมก็ได้พบว่ามีตัวละครสุนัขหลากหลายแบบมาก ๆ ใน Pop Culture และเกมต่าง ๆ ที่พวกเขาสามารถใช้อ้างอิงได้ ตั้งแต่สุนัขนักรบ Okami ไปจนถึงหมาป่าคาบดาบสุดแกร่งอย่าง Great Grey Wolf, Sif

การสำรวจรูปลักษณ์เจ้าตูบของ Naafiri
การสำรวจรูปลักษณ์เจ้าตูบของ Naafiri

ในตอนแรก ๆ ทางทีมยังไม่แน่ใจสักเท่าไรว่าจะให้ส่วนไหนของรูนเทอร์ราเป็นบ้านเกิดของสุนัขตัวนี้ พวกเขาได้ทดลองไอเดียมากมายไม่ว่าจะเป็น สุนัขคาบดาบสไตล์ Drakehound จากน็อกซัส สุนัขสามหัวที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Watcher ในเฟรลยอร์ด และแม้กระทั่งสุนัข Retriever พันธุ์สุริยันและจันทราแห่งทาร์กอน

แต่ท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาก็ติดใจหนึ่งในไอเดียของ Lonewingy หรือก็คือสุนัขกึ่งปีศาจที่มาพร้อมกับลูกฝูงหน้าตาไม่น่ารักเป็นกระบุง

คอนเซ็ปต์ช่วงต้นของ Naafiri นั้นดูจะเป็นสัตว์ประหลาดมากเกินไปหน่อย ต้องดูเห่าได้มากกว่านี้
คอนเซ็ปต์ช่วงต้นของ Naafiri นั้นดูจะเป็นสัตว์ประหลาดมากเกินไปหน่อย ต้องดูเห่าได้มากกว่านี้

“นั่นแหละใช่เลย และทางทีมก็ขอให้ผมอิงไปกับไอเดียนี้ แค่ให้มีความคล้ายสุนัขมากขึ้นและมีความเป็นสัตว์ประหลาดน้อยลง ดังนั้นผมจึงเริ่มสำรวจไอเดียเกี่ยวกับฝูงดาร์คินในชูริม่า เนื่องจากดั้งเดิมแล้วดาร์คินนั้นก็เป็นส่วนหนึ่งของเหล่าเทพจุติมาก่อน” Lonewingy กล่าว

Naafiri เริ่มมีความเป็นสุนัขล่าเนื้อมากขึ้น
Naafiri เริ่มมีความเป็นสุนัขล่าเนื้อมากขึ้น

เมื่อ Lonewingy ได้ลองวาดต้นแบบเพิ่มเติมไปเรื่อย ๆ Naafiri และฝูงของเธอก็เริ่มให้ความรู้สึกเหมือนสุนัขจากโลกความเป็นจริงที่ถูกดาร์คินสิงสู่มากขึ้น... มีเพียงก็แต่รูปร่างมีดของเธอเท่านั้นที่ทำให้ดูต่างไป เธอยังได้สร้างร่างพื้นฐานของสุนัขล่าเนื้อทะเลทรายในแบบที่ไม่มีดวงวิญญาณดาร์คินอยู่ภายในออกมาให้เสร็จสรรพอีกด้วย

“ฉันได้รับแรงบันดาลใจส่วนใหญ่มาจากสุนัขป่าแอฟริกา” Lonewingy อธิบาย “พวกมันมีรูปร่างในแบบที่ฉันเคยจินตนาการว่าสุนัขล่าเนื้อทะเลทรายจะเป็น และฉันก็ยังคิดว่ามันน่าสนใจสุด ๆ ที่พวกมันเลือกใช้ใบหูเป็นสัญญาณในการสื่อสารและรับรู้ร่วมกันในฝูง”

06222023_Champion_Insights_NaafiriArticle_Dune_Hounds_Resized.jpg

สุนัขล่าเนื้อทะเลทรายชูริม่าและแรงบันดาลใจของพวกมันอย่างสุนัขป่าแอฟริกา
สุนัขล่าเนื้อทะเลทรายชูริม่าและแรงบันดาลใจของพวกมันอย่างสุนัขป่าแอฟริกา

แต่ Lonewingy รู้ดีว่าดาร์คินทุกตัวล้วนมีประวัติศาสตร์เป็นของตัวเอง Naafiri มีชีวิตเก่า มีร่างต้นมาก่อน ดังนั้น Lonewingy จึงเพิ่มสัญลักษณ์ให้กับอดีตเรื่องนั้นเล็กน้อยผ่านการมอบต่างหูให้ Naafiri ต่างหูนี้เคยเป็นเครื่องประดับที่ติดอยู่กับด้ามมีดของเธอโดยเจ้าของคนก่อน และเป็นดั่งเครื่องเตือนความทรงจำสุดท้ายที่เหลืออยู่จากร่างของเธอ

ภาพศิลป์ช่วงต้นของ Naafiri ที่สวมใส่ต่างหูที่ทำจากเครื่องประดับบนใบมีด
ภาพศิลป์ช่วงต้นของ Naafiri ที่สวมใส่ต่างหูที่ทำจากเครื่องประดับบนใบมีด

การเห่าหอนของสุนัขล่าเนื้อ

ในตอนนี้ที่เจ้าตูบดาร์คินของเรามีปูมหลัง หมัดเด็ดเกี่ยวกับเกมเพลย์ เทคโนโลยีฝูงแบบใหม่ และรูปลักษณ์สุดโฉบเฉี่ยวแล้ว แต่ยังคงเหลืออยู่คำถามหนึ่ง: แล้วเสียงของฝูงสุนัขปีศาจควรเป็นยังไงล่ะ?

“โอ้ ให้ตายสิ Naafiri เป็นแชมเปี้ยนสุดซับซ้อนขั้นสุดจริง ๆ” Nick “ProfRincewind” Lanza โปรดิวเซอร์เสียงพากย์หัวเราะ “ถ้ามองเข้าไปตอนแรก การมีสุนัขหลายตัวก็ค่อนข้างต้องมีหลายเสียงใช่ไหม แต่จากมุมมองของการพากย์เสียงแล้ว นี่เป็นแนวทางที่ไม่เหมือนใครเลยจริง ๆ เรารู้ดีว่าเราอยากสร้างเสียงที่ทั้งดูดิบและมีความเป็นสัตว์ร้าย โดยที่ไม่พึ่งการใช้ดิจิทัลเอฟเฟกต์หรือการปรับเสียงจนมากเกินไป ซึ่งนั่นจึงนำมาถึงการสร้างเอฟเฟกต์ในแบบดั้งเดิม โดยการให้นักพากย์บันทึกเสียงหลาย ๆ ชั้นในบทพูดเดียวกัน ผ่านน้ำเสียงที่แตกต่างกันไปและบันทึกทุกอย่างแบบสด ๆ ในสตูดิโออัดเสียง ต้องปรบมือดัง ๆ ให้กับนักออกแบบ VO (เสียงพากย์) ของเราอย่าง Austin “Riot Puma Pet” Mullen ที่ผุดไอเดียนี้มาเป็นคนแรก”

เมื่อเราทำการสำรวจสุนทรียะด้านเสียงของแชมเปี้ยนตัวนี้ Riot Puma Pet จะมองถึงสององค์ประกอบการออกแบบหลัก: ก็คือในเชิงกายภาพและเชิงอารมณ์ เขาและทางทีม VO ไม่เพียงแต่ต้องจับเสียงหลากหลายเสียงของ Naafiri เท่านั้น (เชิงกายภาพ) แต่ยังมีเรื่องดวงวิญญาณดาร์คินภายในที่ช่วยให้ฝูงได้แบ่งปันจิตสำนึกร่วมกันอีกด้วย (เชิงอารมณ์) Naafiri นั้นประกอบไปด้วยสิ่งต่าง ๆ มากมายหลายอย่างจริง ๆ

“ผมเชื่ออย่างสุดซึ้งว่า Naafiri จะไม่สามารถเป็นแบบที่เธอเป็นได้หากขาดผู้ให้เสียงของเธออย่าง Morla Gorrondona” “เธอใช้เวลามากมายกับเราเพียงเพื่อลองเสียงที่แตกต่างกันไป รวมถึงแบ่งปันไอเดียเรื่องการแสดงต่าง ๆ การทำงานร่วมกับเธอเป็นดั่งสนามเด็กเล่นมหัศจรรย์ของเสียงสัตว์ประหลาดและการสำรวจเลยล่ะ

และถ้าหากคุณมีหูที่แหลมคมมากพอ คุณก็อาจจะพอได้ยินอะไรที่มากกว่าแค่เสียงสัตว์ประหลาดจากเสียงพากย์ของ Naafiri ด้วยนะ เสียงพากย์แต่ละประโยคของเธอนั้นถูกสร้างขึ้นอย่างบรรจงผ่านภาษาของมนุษย์ ซึ่งนำพาสัมผัสความเป็นผู้นำของ Naafiri ให้เด่นชัดขึ้นมาท่ามกลางฝูงของเธอ

00:00

การบันทึกเสียงมนุษย์จะถูกจับคู่กับการบันทึกเสียงครั้งที่สองที่ Morla ทุ่มสุดตัวไปกับเสียงสัตว์ประหลาดสุดแฟนตาซี

00:00

เมื่อนำมาผนวกรวมกัน พวกเขาจึงสร้างออกมาเป็นสุนัขกึ่งดาร์คินที่ทั้งไร้ตัวตนและบรรพกาล

00:00

06222023_Champion_Insights_NaafiriArticle_Naafiri_Progress_Gif.gif

“โลกนี้จะมีโอกาสรอดสักแค่ไหน เมื่อดาร์คินรวมกันล่าเป็นหนึ่งเดียว?”