สวัสดีพรรคพวก วันนี้ผม Riot Auberaun หัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์ทีมวงจรให้บริการเกม จะมาพูดถึงเรื่องความเป็นไปของซีซั่นจัดอันดับในปีนี้จากมุมมองของเรา เรารู้ดีว่าปีนี้ทั้งปีจะเป็นอะไรที่แตกต่างออกไปนิดหน่อยเนื่องจากการมาถึงของการรีเซ็ตกลางปี ดังนั้นมาเริ่มรีวิวการเปลี่ยนแปลงแต่ละอย่างกันก่อนดีกว่า:

• ซีรีส์เลื่อนขั้นเปลี่ยนจาก Best of 5 เป็น Best of 3: เราอยากให้ซีรีส์เลื่อนขั้นจบไวขึ้น ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้่ก็เห็นผลในเรื่องนั้น พวกเราชอบการเปลี่ยนแปลงนี้ ดังนั้นขั้นต่อไปเราก็จะทำให้มันจบได้ไวขึ้นอีก หรืออาจจะจบในทันทีเลยก็ได้ ซึ่งส่วนนี้ Riot Revenancer จะมาบอกรายละเอียดอีกทีด้านล่าง
• การถอดอิทธิพลของแรงค์ที่มองเห็นได้ในระบบจับคู่ออกไป: เราเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงนี้คือสิ่งที่ถูกต้องสำหรับผู้เล่นที่กลับมาเล่นใหม่ (โดยเฉพาะใครก็ตามที่ไม่ได้เล่นเยอะ ๆ ในช่วงเริ่มต้นซีซั่น) แต่เราก็ได้ยินความเจ็บปวดใจของพวกคุณจากการต้องเจอสเมิร์ฟมากขึ้นด้วยเหมือนกัน เรารับรู้ในระดับหนึ่งว่าการเปลี่ยนแปลงเพื่อผู้เล่นที่กลับมาเล่นใหม่นี้จะทำให้เกิดสเมิร์ฟมากขึ้นในเกมปกติ แต่ถึงอย่างนั้นตอนนี้เราเองก็ไม่พึงพอใจต่อผลกระทบจากการสเมิร์ฟที่เกิดขึ้นในปัจจุบันเช่นกัน
• Victorious Skin และการติดตามรางวัลรูปแบบใหม่: เรายังพอมีเวลาเหลืออยู่บ้าง ดังนั้นเราจึงยังไม่ขอประเมินอะไรมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ ได้รางวัลฟรีเยอะขึ้นก็ถือเป็นเรื่องดีนะ ว่าไหม? ดังนั้นขอประกาศอย่างเป็นทางการไว้ก่อนเลยว่า Victorious Skin สำหรับซีซั่น 2023 - Split 1 จะเป็นสกิน Victorious Anivia

ในช่วงต้นซีซั่นระหว่างแพตช์ 13.4 เราได้ปรับให้การขยับขึ้นลงอันดับต่าง ๆ เกิดได้ง่ายขึ้น ดังนั้นเส้นทางการพิสูจน์ฝีมือตัวเองของคุณจึงจะเต็มไปด้วยความหลากหลายมากขึ้น เราประสบความสำเร็จในเรื่องนี้ แต่ก็มาพร้อมกับผลกระทบบางอย่างที่เรากำลังประเมินอยู่เช่นกัน การเพิ่มตัวแปรแต้ม LP ช่วยให้การผจญภัยของคุณในช่วงต้นสั้นลง และอาจจะส่งผลให้คุณเจอเหตุการณ์ที่แต้ม LP จากการแพ้สูงกว่าแต้ม LP จากการชนะ หาก MMR ของคุณอยู่ไกลจากระดับของแรงค์ที่คุณพยายามไต่ไปให้ถึงมากเกินไป นี่ถือเป็นประสบการณ์ที่แย่มากที่เราอยากจะจัดการ แต่มันก็ยังช่วยเรื่องจุดประสงค์สำคัญบางอย่างได้เช่นกัน: นั่นก็คือการป้องกันไม่ให้แรงค์เฟ้อและคงไว้ซึ่งความโปร่งใสในการไต่อันดับ

“แต่ว่า Riot!” พวกนายบอกเองไม่ใช่หรอว่า “แรงค์มันเฟ้ออยู่แล้วน่ะ!” ถ้าพูดให้ชัดเจนก็คือปริมาณผู้เล่นที่อยู่ในระดับสูงนั้นมีมากกว่า แต่สิ่งสำคัญที่อยากจะหมายเหตุเอาไว้ก็คือเราไม่ได้เปลี่ยนแปลงเรื่องเงื่อนไข MMR ที่ต้องใช้เพื่อคงอยู่ในแรงค์เหล่านี้ในระหว่างปี 2022 กับ 2023 ด้วยการได้รับแต้ม LP สูงขึ้น ผู้เล่นก็สามารถไปถึงจุดที่สุดท้ายพวกเขาต้องไปถึงได้ไวขึ้นก็แค่นั้น ถึงอย่างนั้น การออกแบบดั้งเดิมของระดับ Master ก็ไม่ได้คำนึงถึงการเพิ่มขึ้นของผู้เล่นแบบนี้ ซึ่งกำลังเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เราเชื่อว่ายังมีความเป็นไปได้ที่จะพัฒนาประสบการณ์การเล่นในระหว่างขั้นต่อไปของเหล่าผู้เล่น Master หรือก็คือที่ 800 LP เพื่อขึ้นไปยัง Grandmaster แต่สิ่งสำคัญเลยก็คือการคงไว้ซึ่งเกียรติสูงสุดของการเล่นในระดับนี้ เพราะในท้ายที่สุดแล้ว หากคุณอยู่ในกลุ่มสูงสุด 0.5% ของ... อะไรก็ตามที่คนอื่นอยากจะเป็น คุณเองก็เป็นคนเก่งจริง ๆ นั่นแหละ

ต่อไป Riot Revenancer จะมาพูดถึงสิ่งที่กำลังจะมาในขณะที่เราก้าวเดินต่อไปยังถนนสู่ Split 2

อะไรจะเกิดขึ้นต่อไป

สวัสดี! ผม Riot Revenancer หัวหน้าฝ่ายระบบสำหรับโครงการ Motivation ของเรา ด้วยนี่เป็นครั้งแรกที่เราจะมีการรีเซ็ตแรงค์ในระหว่างซีซั่น เราจึงอยากที่จะมาอธิบายให้เห็นชัดเจนถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นและบอกถึงเหตุผลเบื้องหลังสิ่งเหล่านี้ ก่อนจะเริ่ม ผมคงจะต้องพูดถึงแนวคิดเบื้องหลังของเกมจัดอันดับและการเปลี่ยนแปลงของมันก่อน

ตามประวัติศาสตร์แล้ว ประชากรแรงค์ของ League นั้นมักจะไปกองกันที่ระดับต่ำ ๆ เป็นหลัก ถ้าไม่นับ Iron ในระดับต่ำสุด และ Diamond ขึ้นไปในระดับสูงสุด แรงค์ของเกมแข่งขันเกมอื่น ๆ นั้นมักจะมีประชากรในแรงค์ Bronze, Silver, Gold และ Platinum ในขนาดที่ใกล้เคียงกัน หมายความว่า Bronze และ Silver เป็นตัวแทนของผู้เล่นในระดับต่ำกว่ามาตรฐาน/มาตรฐาน ขณะที่ Gold และ Platinum เป็นตัวแทนของผู้เล่นในระดับสูงกว่ามาตรฐานและยอดเยี่ยมตามลำดับ อย่างไรก็ตาม แรงค์ของเรามักจะเอนเอียงไปในระดับต่ำด้วยจำนวนผู้เล่นมากกว่า 60% อยู่ในระดับ Silver และ Bronze ปัจจุบันใน League จริง ๆ แล้วผู้เล่น Silver หลายคนนั้นมีทักษะในระดับมาตรฐาน ในขณะที่ผู้เล่น Gold นั้นมีทักษะอยู่ในเกณฑ์ที่สูงกว่ามาตรฐานเป็นอย่างมาก

ให้คุณลองคิดแบบนี้ก็ได้: เทียบกับแรงค์ของเกมส่วนใหญ่ในระบบจัดอันดับที่คล้ายคลึงกัน เราจะจัดเรียงทักษะของผู้เล่นส่วนใหญ่ให้ต่ำกว่าปกติหนึ่งระดับ ซึ่งเราตั้งใจจะเปลี่ยนแปลงสิ่งนี้ใน Split 2 และการกระจายตัวจะขยับไปในสัดส่วนที่สม่ำเสมอมากขึ้น โดยมีศูนย์กลางอยู่ในระดับ Gold ด้วยการเปลี่ยนแปลงนี้ อันดับแรงค์น่าจะเข้ากับสิ่งที่คุณควรจะได้พบเจอมากขึ้น และผู้เล่นหลายคนก็น่าจะได้เห็นแรงค์ของตนเองในตอนจบซีซั่นอยู่สูงกว่าที่เคยเป็นมา

นั่นคือเรื่องราวสำหรับระดับหลัก ๆ ของเรา แล้วสำหรับ Diamond และสูงขึ้นไปล่ะ? เป็นเรื่องสำคัญที่อันดับในระดับสูงสุดจะคงไว้ซึ่งความพิเศษและเกียรติยศที่พวกเขาเคยมี ดังนั้นเราจึงจะไม่เปลี่ยนแปลงสิ่งใดเกี่ยวกับวิธีการกระจายตัวของอันดับเหล่านี้ แต่ถึงอย่างนั้น การทำให้การคำนวนนั้นเฉลี่ยลงโดยไม่ชดเชยอะไรเลยก็อาจจะส่งผลให้เกิดความเฟ้ออย่างเด่นชัดในระดับ Diamond ได้ เพื่อลดปัญหานี้ เราจึงเพิ่มระดับใหม่เข้ามา: Emerald ซึ่งคุณอาจจะเคยเห็นจาก League of Legends: Wild Rift ระดับ Emerald จะเข้ามาอยู่ระหว่าง Diamond กับ Platinum และมีจำนวนผู้เล่นที่ใกล้เคียงกับผู้เล่น Platinum ที่มีอยู่ในปัจจุบัน

ในตอนนี้เราบอกชัดเจนถึงแนวคิดเบื้องหลังที่เปลี่ยนไป แล้วเราจะรีเซ็ตแรงค์ระหว่าง Split อย่างไรล่ะ? เราจะใช้สิ่งที่เราเรียกว่าการรีเซ็ตบางส่วน สิ่งนี้จะทำงานเหมือนการรีเซ็ตทั่วไปที่คุณคุ้นชิน แต่ด้วยการรีเซ็ตเริ่มต้นที่มีขนาดเล็กกว่าปกติ ทำให้คุณเริ่มต้นในแรงค์ที่สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดกว่าที่คุณจะเริ่มต้นในการรีเซ็ตครั้งก่อน

นอกจากนี้ เราก็ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่เล็กน้อยที่จะช่วยให้คุณความสามารถขยับขึ้นแรงค์ได้ราบรื่นขึ้นใน Split 2:

เราลดจำนวนเกมวางอันดับจาก 10 เป็น 5 เกม

เนื่องจากคุณได้ตะลุยผ่านการวางอันดับไปแล้วในซีซั่นนี้และครั้งนี้เราจะรีเซ็ตกระดานอันดับเพียงเล็กน้อย เราจึงสามารถกำหนดอันดับที่คุณควรเริ่มต้นได้ไวขึ้น และช่วยประหยัดเวลาของคุณได้มากขึ้นก่อนที่จะเริ่มการไต่อันดับ แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะเกี่ยวข้องกับการรีเซ็ตกลางปี แต่เราก็ตั้งใจจะคงเกมวางอันดับไว้ที่ 5 เกมสำหรับซีซั่นต่อไปเช่นกัน

พวกเราจะนำซีรี่ส์เลื่อนขั้นออกไป

ซีรีส์เลื่อนขั้นถือเป็นองค์ประกอบสำคัญสำหรับการไต่แรงค์มาอย่างยาวนาน ซีรีส์เลื่อนขั้นถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเพิ่มเรื่องราวและการเดิมพันเข้าไปในช่วงเวลาการเดินทางใน League ของคุณ ในขณะที่มันทำเรื่องนั้นได้ มันก็ยังสามารถสร้างสถานการณ์ที่ผู้เล่นตกเกมเลื่อนขั้นหลายครั้ง ทำให้พวกเขาไต่อันดับได้ช้าลง และสร้างความน่าหงุดหงิดมากมาย หลังจากที่เราได้ติดตามถึงความถี่ที่ผู้เล่นต้องใช้ในการไต่อันดับที่มากขึ้นและการมีสอง Split ต่อปี เราจึงตัดสินใจว่าความเครียดจากการที่ต้องเล่นซีรีส์เลื่อนขั้นหลายครั้งสำหรับแรงค์ที่คุณเคยไปถึงแล้วแบบซ้ำไปซ้ำมานั้นจะส่งผลเสียมากกว่าประโยชน์ที่ได้รับ ดังนั้นเริ่มต้นตั้งแต่ Split ถัดไป คุณจะสามารถเลื่อนอันดับได้โดยตรงเมื่อไรก็ตามที่คุณมีแต้ม LP มากพอ

เนื่องจากมีหลายเรื่องที่ได้พูดไป เราจึงจะมาปิดท้ายด้วยสรุปสั้น ๆ ให้:

• เราจะปรับเปลี่ยนการคำนวนประชากรในแรงค์ ทำให้แต่ละแรงค์เป็นไปตามความคาดหวังของคุณมากขึ้น และผู้เล่นส่วนใหญ่ก็จะพบว่าตัวเองอยู่ในอันดับที่สูงกว่าแต่ก่อน
• เราจะเพิ่มระดับใหม่เข้ามา นั่นก็คือ Emerald ที่จะมาคั่นระหว่าง Platinum และ Diamond
• เราจะทำการรีเซ็ตแรงค์ แต่เป็นในขนาดที่เล็กกว่าครั้งก่อน และคุณต้องเล่นเกมวางอันดับเพียงแค่ 5 เกมเท่านั้น
• ซีรีส์เลื่อนขั้นจากไปแล้ว

ขอบคุณที่อ่านจนจบและขอให้โชคดีกับการไต่แรงค์ (ครั้งที่สอง) ของคุณนะ!