แพตช์โน้ต 13.21
ตื่นรับกาแฟยามเช้าสักแก้วไปกับแพตช์ 13.21!
การเปลี่ยนแปลงมากมายในแพตช์นี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามมาจากแพตช์ 13.20 โดยรวมแล้ว เราทำได้ถึงเป้าในการเปลี่ยนแปลงรูปเกมให้มีการสโนว์บอลน้อยลง เปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้ปะทะกันบ่อยขึ้น และเกมในตอนนี้จะใช้เวลานานกว่าเวลาเฉลี่ยเดิมเพียงเล็กน้อย ด้วยเหตุนี้ แชมเปี้ยนที่เน้นเล่นท้ายเกมจะมีโอกาสชนะเกมมากกว่าแชมเปี้ยนที่เน้นเล่นในช่วงต้น นั่นแปลว่าจะต้องปรับสมดุลกันอีกสักหน่อย การเปลี่ยนแปลงป่าได้ทำให้เหล่าตัวป่าถอยขยับลงมาตามตำแหน่งอื่นในช่วงต้นเกมมากขึ้น แต่ก็กระทบกับตัวป่าพลังโจมตีอยู่เช่นกัน ดังนั้นเราจึงบัฟพวกเขาเพิ่ม ท้ายสุดนี้ การอัปเดตชุดสกิลให้กับ K'Sante ที่เราทำไปนั้นประสบความสำเร็จในการเปิดโอกาสให้แก้ทางตัวเขามากขึ้น แต่ก็ยังมอบพลังให้กับเขาได้ไม่มากพออย่างที่เราต้องการ ดังนั้นเราจึงดันเขาขึ้นด้วยการบัฟเขาอีกสักหน่อย
นอกเหนือจากการติดตามเรื่องการเปลี่ยนแปลงแล้ว เรายังมองไปที่การทำให้ Morgana, Seraphine, Brand และ Zyra สามารถเล่นได้หลากหลายตำแหน่งมากขึ้น
อีกทั้งในแพตช์นี้ ยังถือเป็นการกลับมาของ Nexus Blitz ที่ใคร ๆ ต่างรอคอยกันมาอย่างยาวนานพร้อมด้วยการพัฒนาเรื่องคุณภาพชีวิตบางเรื่อง พร้อมด้วยเหล่าสกิน Cafe Cuties ที่จัดจานพร้อมเสิร์ฟ Pentakill กันแบบงาม ๆ (แต่ไม่ใช่กับเธอหรอกนะ Lulu อย่ามาแย่งคิลฉันหมดเชียวนะ) การหมุนเวียนร้านค้า Mythic ใหม่ และตบท้ายด้วยการปรับสมดุล ARAM กันอีกสักรอบ แล้วอย่าพลาดเรื่อง Worlds Clash ที่กำลังจะเกิดขึ้นในแพตช์นี้กันด้วยนะ!
คุณสามารถเข้าไปอ่าน แพตช์โน้ตของ TFT ได้เลย ที่นี่!
ไฮไลท์ในแพตช์
การกลับมาของ Nexus Blitz
ในที่สุด Nexus Blitz ก็กลับมาแล้ว! ครั้งล่าสุดที่ Nexus Blitz เปิดตัวไปนั้นต้องย้อนกลับไปยังแพตช์ 11.11 ตั้งแต่ตอนนั้นก็เกิดการเปลี่ยนแปลงเกมเพลย์ของ League แบบพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ เช่นเดียวกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคนิคหลังบ้านที่จำเป็นต้องแก้ไขเพื่อนำโหมดนี้กลับมาได้ เราแอบดำเนินการเรื่องนี้แบบซุ่มเงียบเพื่อที่จะนำโหมดเกมขวัญใจแฟน ๆ ทุกคนกลับมา หวังว่าคุณจะสนุกไปกับโหมดนี้นะ!
รีเซ็ตการปรับสมดุลแชมเปี้ยน
แชมเปี้ยนทุกตัวจะถูกรีเซ็ตเรื่องการปรับเปลี่ยนเปอร์เซ็นต์สมดุลบัฟของแชมเปี้ยน จากการรีเวิร์คของไอเทมและแชมเปี้ยนจำนวนมากไปจนถึงการอัปเดตเรื่องความทนทาน มีหลายสิ่งเกิดขึ้นมากมายตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่ Nexus Blitz นั้นเปิดให้เล่น เราจึงขอใช้โอกาสนี้ในการรีเซ็ตสมดุลและขีดเส้นมาตรฐานขึ้นมาใหม่ แต่ไม่ต้องกังวลไป ถ้าหากแชมเปี้ยนตัวไหนเก่งแบบแรงไม่หยุดฉุดไม่อยู่ละก็ เราจะหาพวกมันให้เจอ และเราจะเนิร์ฟมันซะ ไม่ก็บัฟมันแทน
ทุกคนจะได้รับสัตว์เลี้ยงป่า!
เหล่าสัตว์เลี้ยงป่าได้เดินทางจาก Summoner's Rift เข้ามาสู่ Nexus Blitz ได้อย่างสมบูรณ์ครบทุกประการ ดูเหมือนเหล่ามอนสเตอร์ในนี้จะดูอวบอิ่มสมบูรณ์กว่าเดิมนิดหน่อยนะ นั่นแปลว่าเหล่าสัตว์เลี้ยงจะต้องการจำนวนสแตคเพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้นในการอัปเลเวล! นี่จะเป็นรายการความแตกต่างระหว่าง Summoner's Rift และ Nexus Blitz:
- สแตคที่จำเป็นต่อการอัปเกรด: 20 ⇒ 10 เพื่อเปลี่ยนเป็นระดับที่ 2, 40 ⇒ 20 เพื่อเปลี่ยนเป็นระดับที่ 3
- ผู้เล่นจะไม่ได้รับโบนัสขนมเมื่อสัตว์เลี้ยงป่าของพวกเขาอัปเกรดเสร็จสมบูรณ์อีกต่อไป
เปลี่ยนแปลงจุดเกิดอีเวนต์ต่าง ๆ
จุดเกิดของอีเวนต์ต่าง ๆ ถือเป็นปัญหาที่สาหัสกับ Nexus Blitz ตั้งแต่ที่โหมดนี้เปิดให้เล่น ก่อนหน้านี้ ถือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นยากแต่ก็เป็นไปได้ในการเป็นทีมตาม แถมยังมีอีเวนต์ที่เข้าข้างทีมที่ขึ้นนำอยู่อีก เป้าหมายในการเปลี่ยนแปลงนี้คือเพื่อเสริมความเท่าเทียมให้กับอีเวนต์ นอกจากนี้ จอมโจร Veigar และ Teemo จะไม่เดินตะลอนอยู่ฝั่งป่าศัตรูด้านบนจนกว่าทีมนั้นจะตามหลังและต้องการการเสริมการป้องกันเพิ่มเติมอีกต่อไป
จุดเกิดอีเวนต์เหล่านี้จะเกิดอย่างเป็นกลางเสมอหรือจะเกิดโดยที่เข้าข้างทีมที่ตามหลัง:
- จอมโจร Teemo
- จอมโจร Veigar
- อีเวนต์ Bradle Royale ทุกรูปแบบ
- ราชาแห่งภูเขา
- ดวลแข่ง DPS
- แก้ไขบั๊กอีเวนต์เล็กน้อย อีเวนต์ Prize Fight และ URF Deathmatch ในตอนนี้จะรีเซ็ตคูลดาวน์สกิลให้อย่างถูกต้องเมื่อเริ่มต้นและสิ้นสุดรอบ
แชมเปี้ยน
Akshan
ข้อครหาเรื่องการช่วยคืนชีพคนตายของ Akshan นั้นไม่ได้ทำประโยชน์ให้กับเพื่อนร่วมทีมของเขามากนักจากการที่พวกเขาต้องวิ่งฝ่าแผนที่ที่ลุกเป็นไฟ เพื่อกระโดดเข้ามากลางวงไฟต์อีกรอบ เพื่อชดเชยการขาดเวลาเดินทาง เพื่อนร่วมทีมที่เขาชุบชีวิตมานั้นจะมีพลังชีวิตลดลงแบบเห็นได้ชัด หากคุณตายขณะที่อยู่นอกวงที่กำลังบีบใน Bradle Royale ละก็ เตรียมตัววิ่งฝ่ากองไฟแบบหลวงปู่เค็มกันได้เลย!
- ในช่วงระหว่างอีเวนต์ที่มีวงแหวนแห่งไฟ (เช่น Bardle Royale, URF Deathmatch, Prize Fight) การสังหารแชมเปี้ยนที่มีสถานะทรชนจะฟื้นคืนชีพเพื่อนร่วมทีมด้วยพลังชีวิต 30% ของพลังชีวิตสูงสุดของพวกเขา ณ ตำแหน่งที่พวกเขาตาย
Bel'Veth
การที่ Bel'Veth สามารถเข้าถึงปะการัง Void จากมอนสเตอร์ในตำนานอย่าง Rift Herald ได้เพียงแหล่งเดียวนั้นทำให้เธอไม่สามาถขึ้นเป็นจักรพรรดินีแห่งวอยด์ได้เลยแม้แต่ครั้งเดียวในหลาย ๆ เกมที่เกิดขึ้น การจะทำให้เข้าถึงได้ด้วยการทำลายป้อมปราการแบบใน ARAM นั้นก็จะพบกับปัญหาที่ตามมาอีก นั่นคือการที่เข้าใกล้การการันตีให้เกมสามารถสโนว์บอลได้แบบหยุดไม่อยู่ ดังนั้นการทำให้ปะการัง Void แบบเสริมพลังสามารถดรอปจาก Jungle Guardian ฝั่งศัตรูนั้นทำให้เธอเสี่ยงขึ้น และมอบรางวัลที่มีค่ามากขึ้นให้เธอสามารถไปถึงร่างที่แท้จริงได้
- Jungle Guardian ฝั่งศัตรูจะดรอป Void Coral แบบเสริมพลัง
Ivern
การเข้าป่าแบบเชิงรับอันสุดเฉพาะตัวของ Ivern นั้นเกิดปัญหาขึ้นเมื่อเข้าสู่โลกที่มีตัวป่าสองตัวคู่กัน เรื่องนี้ส่งผลให้เขาไม่สามารถเล่นได้เมื่อตอนที่ Nexus Blitz เปิดตัวไปในอดีต เป้าหมายของเราในการเปลี่ยนแปลงนี้คือการทำให้เขาสามารถต่อสู้กับมอนสเตอร์ป่าได้ตามปกติมากขึ้นนิดหน่อย เราจะคอยติดตาม Ivern เพื่อดูการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้ต่อไปเป็นอย่างดี
- ครั้งนี้ Ivern จะมาร่วมวงความสนุกของ Nexus Blitz ในครั้งนี้ด้วย แต่เศร้าหน่อยที่สกิลติดตัวอย่าง Friend of the Forest ของ Ivern จะถูกปิดการใช้งาน
การปรับเปลี่ยนไอเทม
- คูลดาวน์จากความสามารถ Lifeline: 120 วินาที ⇒ 60 วินาที
- ความสามารถกดใช้ของ Spectral Cutlass: 60 วินาที ⇒ 45 วินาที
- Innervating Locket: หลังจากใช้สกิล ฟื้นฟูพลังชีวิต 3.8% ของพลังชีวิตที่หายไป และฟื้นฟูมานา 3% ของมานาที่หายไปเป็นเวลา 3 วินาที
การเปลี่ยนแปลงมอนสเตอร์ป่า
มีการปรับสมดุลบางส่วนให้กับแคมป์ป่าเพื่อชดเชยความเสียหายโดยรวมที่สูงขึ้นจากการเพิ่มสัตว์เลี้ยงป่าเข้ามา
- พลังชีวิตของ Scuttler: 2800-9520 ⇒ 3400-11,560
- พลังชีวิตของ Ancient Krug: 1300-3055 ⇒ 1650-3878
- พลังชีวิตของ Krug: 600-1410 ⇒ 900-2115
- พลังชีวิตของ Mini Krug: 50-118 ⇒ 80-188
- พลังชีวิตของ Greater Murk Wolf: 2000-4700 ⇒ 2400-5640
- พลังชีวิตของ Murk Wolf: 600-1410 ⇒ 800-1880
- พลังชีวิตของ Sir Gromp: 2000-4700 ⇒ 2400-5640
- พลังชีวิตของ Crimson Raptor: 1250-2937 ⇒ 1600-3760
- พลังชีวิตของ Raptor: 500-1175 ⇒ 700-1645
- พลังชีวิตของ Red Brambleback: 4000-10,800 ⇒ 4600-12,420
- พลังชีวิตของ Blue Sentinel: 3000-8100 ⇒ 3500-9450
- พลังชีวิตของ Jungle Guardian: 3775-5521 ⇒ 4500-6584
- พลังโจมตีของ Jungle Guardian: 40-95 ⇒ 40-105
- พลังชีวิตของ Rift Herald: 7500-15,000 ⇒ 8400-16,800
แชมเปี้ยน
Aurelion Sol
ความเสียหายของ Q ลดลง
Aurelion Sol ถือเป็นผู้ชนะตัวจริงของแพตช์ที่แล้วจากการลดลงของการสโนว์บอล ซึ่งทำให้เมจที่สเกลเข้าสู่ท้ายเกมได้ดีตัวนี้พบกับเกมที่เอาชนะได้มากขึ้นกว่าแต่ก่อน ในการพยายามที่จะดึงเขากลับมาอยู่ในเกณฑ์ เราจึงทำการเนิร์ฟเขาลงโดยการมุ่งเป้าไปที่การสเกลเข้าสู่ช่วงท้ายเกมของเขา เนื่องจากการเนิร์ฟนี้เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติแทนที่จะเกิดขึ้นจากการฟาร์มสแตคหรือการซื้อไอเทมพลังเวท การเนิร์ฟนี้จะผูกมัดพลังท้ายเกมของเขามากขึ้นด้วยการทำเกมของเขาให้ดีในช่วงต้น
Q - Breath of Light
- ความเสียหายเวทต่อวินาที: 15/25/35/45/55 (+30-80 (ขึ้นอยู่กับเลเวล)) ( +60% ของพลังเวท) ⇒ 45/60/75/90/105 (+55% ของพลังเวท)
- ความเสียหายเวทเมื่อระเบิด: 40/50/60/70/80 (+20-30 (ขึ้นอยู่กับเลเวล)) (+35% ของพลังเวท) (+ 3.1% ของแต้ม Stardust) จากเปอร์เซ็นต์พลังชีวิตสูงสุดของเป้าหมาย ⇒ 60/70/80/90/100 (+35% ของพลังเวท) (+ 3.1% ของแต้ม Stardust) จากเปอร์เซ็นต์พลังชีวิตสูงสุดของเป้าหมาย
Bel'Veth
คูลดาวน์ของ E ลดลง
เราประสบความสำเร็จในการดึงความสามารถจักรพรรดินีของเราลงมาส่วนหนึ่ง แต่เราก็ไม่ได้จงใจที่จะเนิร์ฟเธอจนถึงขั้นตกบัลลังก์สักทีเดียว ด้วยเหตุนี้ เราจึงจะขอคืนการเนิร์ฟที่เกิดขึ้นสักหน่อย โดยในตอนนี้สกิล E ของเธอไม่ถือเป็นสกิลป้องกันที่แข็งแกร่งสักเท่าไรนักในช่วงต้นเกม เราจึงโอเคที่จะมอบพลังในส่วนนี้ให้ในรูปแบบของการลดคูลดาวน์ลงเพื่อให้สามารถใช้งานสกิลนี้กันได้บ่อยขึ้น
E - Royal Maelstrom
- คูลดาวน์: 24/22.5/21/19.5/18 วินาที ⇒ 20/19/18/17/16 วินาที
Brand
ความเร็วโจมตีที่เลเวล 1 เพิ่มขึ้น การเติบโตของความเร็วโจมตีเพิ่มขึ้น เกราะพื้นฐานเพิ่มขึ้น การเติบโตของเกราะลดลง พลังชีวิตพื้นฐานลดลง การเติบโตของพลังชีวิตเพิ่มขึ้น ความเสียหายต่อมอนสเตอร์ของสกิลติดตัวเพิ่มขึ้น ความเสียหายของ E ลดลง
เป้าหมายสำหรับการเปลี่ยนแปลงในแพตช์นี้คือการทำให้ Brand สามารถเล่นได้ในตำแหน่งอื่นมากขึ้นนอกเหนือจากซัพพอร์ต ด้วยการปรับเปลี่ยนค่าพลังพื้นฐานและการปรับแก้สกิลติดตัวซึ่งทำให้ Brand ในตำแหน่งป่ามีความสามารถเคลียร์ป่าที่พึ่งพาได้มากขึ้น (พร้อมกับมอบเกราะและความเร็วโจมตีเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือผู้เล่น) ดังนั้นอย่าลืมอัป Q ที่เลเวล 1 เพื่อทำให้คุณเคลียร์ป่าได้แบบไม่เจ็บตัวมากที่สุดกันด้วยนะ
ขณะเดียวกัน Brand เลนกลางจะเล่นตำแหน่งนี้ได้สนุกขึ้นด้วยความเร็วโจมตีที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งจะช่วยให้สามารถลาสมินเนี่ยนได้ดีขึ้นและสามารถตัดพลังชีวิตป้อมในจังหวะที่เขาต้องเน้นเลนให้มากขึ้นได้ เราคาดหวังในการเปลี่ยนแปลงนี้กับตำแหน่งซัพพอร์ตของเขาเช่นกัน เราจึงส่งมอบความห่วงใยให้กับหนึ่งในสกิลของเขาด้วยเป้าหมายที่ทั้งสามตำแหน่งนี้จะสามารถเล่นได้และสนุกที่จะเล่น
ทั้งนี้สำหรับผู้เล่น Brand ป่า: กรุณาอัพ Q ตอนเลเวล 1 ด้วยนะ เพราะสกิลนี้มีความเสียหายพื้นฐานที่สูงที่สุดและมีคูลดาวน์ที่สั้นที่สุดแล้ว อัป Q ที่เลเวล 1 พอ ไม่จำเป็นต้องอัปให้เต็ม อัป Q ที่เลเวล 1 ก็พอ
ค่าพลังพื้นฐาน
- ความเร็วโจมตีที่เลเวล 1: 0.625 ⇒ 0.681
- การเติบโตของความเร็วโจมตี: 1.36% ⇒ 2%
- เกราะพื้นฐาน: 22 ⇒ 27
- การเติบโตของเกราะ: 4.7 ⇒ 4.2
- พลังชีวิตพื้นฐาน: 590 ⇒ 570
- การเติบโตของพลังชีวิต: 102 ⇒ 105
สกิลติดตัว - Blaze
- ตัวคูณความเสียหายต่อมอนสเตอร์: 120% ⇒ 220%
- ความเสียหายสูงสุดต่อมอนสเตอร์ต่อครั้ง: 80 (หมายเหตุ: ไม่เปลี่ยนแปลง)
E - Conflagration
- ความเสียหายเวท: 70/95/120/145/170 (+ 55% ของพลังเวท) ⇒ 65/90/115/140/165 (+55% ของพลังเวท)
Briar
การเติบโตของความเร็วโจมตีลดลง การฮีลจากสกิลติดตัวหากเป้าหมายตายระหว่างที่เลือดไหลเพิ่มขึ้น ความเสียหายของ W ลดลง
หลังจากการเปลี่ยนแปลงป่าที่เกิดขึ้นในแพตช์ที่แล้ว Briar กลายเป็นหนึ่งในตัวที่ประสบความสำเร็จในการเล่นอย่างมาก พวกเราชื่นชอบความรู้สึกในการเล่นเธอในช่วงต้นเกม ดังนั้นแทนที่จะปรับเปลี่ยนในจุด ๆ นั้น เราจึงมองไปถึงการลดความสามารถในการสเกลเรื่องความเสียหายของเธอเพื่อยับยั้งเธอจากการสโนว์บอลแบบฉุดไม่อยู่ (ซึ่งขัดแย้งกับแชมเปี้ยนที่ต้องพึ่งพาความบ้าคลั่งอย่างสม่ำเสมออยู่พอสมควรเลย ว่าไหม?) อีกทั้งเราได้เห็นผู้เล่นบางคนพยายามนำ Briar ไปเล่นในตำแหน่งเลนบน ดังนั้นเราจึงบัฟการฮีลจากสกิลติดตัวของเธอ เพื่อมอบการเข้าถึงพลังการฟื้นฟูที่พึ่งพาได้มากขึ้นเมื่อเธอไม่ได้เล่นในตำแหน่งป่า
ค่าพลังพื้นฐาน
- การเติบโตของความเร็วโจมตี: 2.3% ⇒ 2.0%
สกิลติดตัว - Crimson Curse
- ฮีลเมื่อเป้าหมายตายเมื่อเลือดไหล: 100% ของสถานะเลือดไหลที่เหลืออยู่ ⇒ 125% ของสถานะเลือดไหลที่เหลืออยู่
W - Snack Attack
- โบนัสความเสียหายกายภาพเมื่อร่ายซ้ำ: 5/20/35/50/65 (+5% ของพลังโจมตี) (+10% (+4% ต่อโบนัสพลังโจมตี 100 หน่วย) ของพลังชีวิตที่หายไปของเป้าหมาย) ⇒ 5/20/35/50/65 (+5% ของพลังโจมตี) (+10% (+3.5% ต่อโบนัสพลังโจมตี 100 หน่วย) ของพลังชีวิตที่หายไปของเป้าหมาย)
Caitlyn
ความเสียหาย Headshot เพิ่มขึ้นด้วยโอกาสคริติคอล คูลดาวน์ของ R เพิ่มขึ้น ความเสียหายลดลง โบนัสความเสียหายจากโอกาสคริติคอลเพิ่มขึ้น
Caitlyn บิลด์โจมตีจุดตายนั้นเริ่มเป็นที่สนใจซึ่งทำให้เกิดความหัวเสียอยู่พอสมควร ทำให้เกิดเกมเพลย์ที่ไร้ซึ่งการโต้ตอบกับคู่ต่อสู้ของเธอในการหลีกเลี่ยงสกิลอัลติเมทจากบิลด์โจมตีจุดตายแบบของครบ ซึ่งเธอสามารถกดสกิลอัลติเมทได้เรื่อย ๆ และถ้าคุณไม่มีตัวชนคอยกันสกิลนี้ให้คุณก็จะยิ่งหัวเสียมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงในส่วนนี้จึงมีเป้าหมายในการลดความแข็งแกร่งและความถี่ของสกิลอัลติเมทของเธอลงเมื่อเธอออกของแบบเน้นโจมตีจุดตายโดยที่ไม่ส่งผลกระทบแบบชัดเจนให้กับหน้าที่หลักของสกิลเมื่อ Caitlyn ออกของในสายคริติคอล
สกิลติดตัว - Headshot
- โบนัสความเสียหายกายภาพ: 60/90/120% (+ (81.25% ของโอกาสคริติคอล) * (100% ของความเสียหายคริติคอล) ⇒ 60/90/120% (+ (85% ของโอกาสคริติคอล) * (100% ของความเสียหายคริติคอล)
R - Ace in the Hole
- คูลดาวน์: 90/75/60 วินาที ⇒ 90 วินาทีในทุกระดับ
- ความเสียหายกายภาพ: 300/525/750 (+200% ของโบนัสพลังโจมตี) ⇒ 300/500/700 (+170% ของโบนัสพลังโจมตี)
- โบนัสความเสียหายจากโอกาสคริติคอล: 0-35% ⇒ 0-50%
Dr. Mundo
โบนัสพลังโจมตีของ E ลดลง
Dr. Mundo ได้รับประโยชน์มากเกินไปสักเล็กน้อยจากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในแพตช์ล่าสุดของเราซึ่งถือเป็นจังหวะที่ดีที่จะเนิร์ฟคุณหมอคนดีคนนี้ลงสักหน่อย ในประเด็นหลัก ๆ ที่เรามองนั้นจะเป็นเรื่องการลดความเสียหายของเขาลงซึ่งค่อนข้างรุนแรงเกินไปเล็กน้อย พร้อมกับคงไว้ซึ่งเกมเพลย์สุดแทงค์และทนทานอันสุดเฉพาะตัวของเขาในแบบที่ "พึงพอใจจะให้เกิดขึ้น" เอาไว้
E - Blunt Force Trauma
- โบนัสพลังโจมตีจากสกิลติดตัว: 2/2.5/3/3.5/4% ของพลังชีวิตสูงสุด ⇒ 2/2.25/2.5/2.75/3% ของพลังชีวิตสูงสุด
- โบนัสพลังโจมตีตามพลังชีวิตที่หายไป: 0-60% ⇒ 0-40%
Hecarim
การเติบโตของพลังโจมตีเพิ่มขึ้น ระยะเวลาของ W เพิ่มขึ้น
Hecarim นั้นสูญเสียพลังลงไปมากจากการเนิร์ฟ Gustwalker ในแพตช์ล่าสุด ดังนั้นเราจึงเพิ่มพลังให้กับพลังเท้าไฟของเขาสักหน่อย เราตระหนักได้ถึงการเล่นบิลด์ใหม่ที่ใช้ Youmuu's Ghostblade ซึ่งช่วยเพิ่มพลังโดยรวมของเขาได้เมื่อผู้เล่นนำมาปรับใช้ แต่เราต้องการมุ่งเน้นไปที่การเสริมตัวตนที่เขาเป็นในฐานะไฟเตอร์ให้มากขึ้น ด้วยการเพิ่มพลังโจมตีพื้นฐานที่เกิดขึ้นในแพตช์นี้ เขาจะแข็งแกร่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัดกับไอเทมไฟเตอร์มากมายเช่น Ironspike Whip และ Sheen นอกจากนี้ เรายังมอบเวลาให้เขาได้ใช้งาน Spirit of Dread ได้นานขึ้น นั่นแปลว่าเขาไม่จำเป็นต้องพึ่งพาพลังการเบิร์สความเสียหายล่วงหน้ามากนักอีกด้วย
ค่าพลังพื้นฐาน
- การเติบโตของพลังโจมตี: 3.2 ⇒ 3.7
W - Spirit of Dread
- ระยะเวลา: 4 วินาที ⇒ 5 วินาที
Jinx
ปรับเปลี่ยนสแตคของสกิลติดตัว
การบัฟ Jinx จากแพตช์ที่แล้วนั้นออกมาเป็นอย่างดี แต่ในส่วนของสกิลติดตัวนั้นค่อนข้างจะโหดเกินเบอร์ไปมากในสถานการณ์ที่ Jinx สามารถวิ่งไปทำจังหวะบนฐานศัตรูได้แบบไม่มีใครหยุดเธอได้ ด้วยการลดทอนความเฉิดฉายของเธอลงโดยการจำกัดสแตคของสกิลติดตัวของเธอและการที่จะสามารถสแตคได้เมื่อปะทะกับแชมเปี้ยนเพียงอย่างเดียวนั้นจะช่วยลดความสามารถของเธอในการปิดเกมได้แบบไม่จำเป็นต้องคิดหน้าคิดหลัง
สกิลติดตัว - Get Excited!
- สแตคของ Get Excited: ทุก ๆ การโค่นล้มแชมเปี้ยน การสังหารมอนสเตอร์ในตำนาน และการทำลายสิ่งปลูกสร้างจะได้รับสแตค Get Excited! และรีเฟรชระยะเวลาบัฟ ⇒ การสังหารมอนสเตอร์ในตำนานและการทำลายสิ่งปลูกสร้างจะมอบสแตคแรกของ Get Excited! และจะรีเฟรชระยะเวลาบัฟ แต่มีเพียงการโค่นล้มแชมเปี้ยนเท่านั้นที่จะสามารถเพิ่มจำนวนสแตคที่ Jinx จะได้รับได้
- ใหม่ขีดจำกัดสแตค: ตอนนี้ Jinx จะสามารถเก็บสแตค Get Excited! ได้เพียง 5 สแตคเท่านั้น
K'Sante
ปรับเปลี่ยนทุกสกิลยกเว้นสกิล E แก้ไขบั๊กมากมาย
เราได้ติดตามการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับ K'Sante ในแพตช์ 13.20 ซึ่งบรรลุได้ตามเป้าหมายมากมายที่เราต้องการ แต่ก็ยังไม่ใช่เป้าหมายที่จะทำให้เขาแข็งแกร่งมากขึ้น ดังนั้นเราจึงกลับมาแก้ไขในจุดนี้! ไม่เพียงแต่เราจะแก้ไขระดับพลังของเขาเพียงอย่างเดียว แต่เรายังได้แก้ไขบั๊กที่เกิดขึ้นมากมายอีกด้วย เป้าหมายหลักสำหรับการบัฟในแพตช์นี้คือการยกระดับพลังของเขาใน All Out เพื่อทำให้แน่ใจว่าการลดทอนค่าต้านทานของเขานั้นคุ้มค่ามากพอ นอกจากนี้ เราได้พยายามที่จะเพิ่มการแสดงออกสกิลของเขาให้มากขึ้นโดยการทำให้เขาสามารถกด Path Maker ค้างเพื่อลดทอนความเสียหายได้นานขึ้นอีกด้วย ซึ่งจะทำให้เขาสามารถใช้งานในบิลด์ที่เขารู้จักดีได้และดึงระยะเวลาร่าย Ntofo Strikes ให้ไวขึ้นด้วยการใช้โบนัสพลังชีวิตที่น้อยลง
สกิลติดตัว - Dauntless Instinct
- โบนัสความเสียหายทุ่มสุดตัว: 35% ⇒ 45/60/75% (เลเวล 6/11/16)
Q - Ntofo Strikes
- โบนัสพลังชีวิตที่จำเป็นสำหรับระยะเวลาร่ายที่ต่ำที่สุด: 1800 ⇒ 1200
- อัปเดตคำอธิบายสกิล: ตอนนี้คำอธิบายสกิลจะแสดงพลังชีวิต/ต้านทาน ที่จำเป็นในการลดคูลดาวน์และลดระยะเวลาร่ายแล้ว คำอธิบายสกิลแบบทุ่มสุดตัวได้รับการอัปเดตและทำให้เข้าใจง่ายขึ้นแล้ว
W - Path Maker
- การพุ่งแบบน่าปวดหัว: สกิล W - Path Maker จะไม่ขัดการพุ่งจากสกิล E ของ K'Sante เมื่อเริ่มต้นร่ายสกิลอีกต่อไป
- ระยะเวลาร่ายสูงสุด: 1.0 วินาที ⇒ 1.5 วินาที (หมายเหตุ: การเปลี่ยนแปลงนี้จะกระทบทั้งสกิล W - Path Maker ทั้งแบบปกติและแบบทุ่มสุดตัว)
- อัปเดตคำอธิบายสกิล: คำอธิบายสกิลแบบทุ่มสุดตัวได้รับการอัปเดตและทำให้เข้าใจง่ายขึ้นแล้ว
R - All Out
- ฮีล: คำนวณจากความเสียหายกายภาพและความเสียหายจริงที่ทำกับแชมเปี้ยน ⇒ คำนวณจาก ทุก ๆ ความเสียหายที่ทำกับแชมเปี้ยน
- รีเซ็ตการโจมตีปกติเมื่อใช้ Q + E: 0.1 วินาที ⇒ ทันที
แก้ไขบั๊ก
- แก้ไขบั๊กที่ทำให้ K'Sante สามารถใช้งาน Flash พร้อมกับร่ายสกิล Q ครั้งที่สามได้ในบางครั้ง
- แก้ไขบั๊กที่ทำให้การโดนสถานะสะกดจิตหรือหวาดกลัวสามารถขัดการชาร์จสกิล W ของ K'Sante ได้
- แก้ไขบั๊กที่ทำให้ K'Sante สามารถกดคลิกซ้ายเพื่อยกเลิกสกิล W ของเขาแบบทุ่มสุดตัวได้
- แก้ไขบั๊กที่ทำให้ K'Sante สามารถร่ายสกิล W ซ้ำสองได้ในบางครั้ง
- แก้ไขบั๊กที่ทำให้โบนัสพลังโจมตีและการลดค่าต้านทานจากสกิล R นั้นไม่ถูกอัปเดตตามกันไปในระหว่าง All Out
- แก้ไขบั๊กที่ทำให้การฮีลจากสกิล R นั้นไม่เกิดขึ้นเมื่อความเสียหายนั้นกระทำต่อโล่ป้องกัน
LeBlanc
ความเสียหายของ W เพิ่มขึ้น ความเสียหายของ E เมื่อล่ามโซ่สำเร็จเพิ่มขึ้น
หลังจากการปรับเปลี่ยนในแพตช์ 13.19 ที่ผ่านมาเราสามารถทำให้ LeBlanc เลิกออก Statikk Shiv ได้สำเร็จ แต่บิลด์พลังเวทของเธอในตอนนี้กลับประสบปัญหาในท้ายที่สุด เราต้องการปรับเพิ่มการสเกลความเสียหายของเธอ เพราะการเปลี่ยนแปลงส่วนนี้จะช่วยบัฟบิลด์พลังเวทของเธอโดยตรง ซึ่งจะช่วยให้เธอสามารถสร้างความเสียหายเทียบเท่ามือสังหารตัวอื่น เราเลือกที่จะบัฟ Distortion และ Ethereal Chains ตอนล่ามโซ่สำเร็จ เพราะสกิลเหล่านี้มีเกมเพลย์ที่น่าสนใจมากที่สุดสำหรับทั้งตัวเธอเองและศัตรู และช่วยเน้นพลังของ LeBlanc ในด้านการสังหาร ไม่ใช่พลังในการยิงตอด
W - Distortion
- ความเสียหายเวท: 75/115/155/195/235 (+65% ของพลังเวท) ⇒ 75/115/155/195/235 (+75% ของพลังเวท)
E - Ethereal Chains
- ความเสียหายเมื่อล่ามโซ่สำเร็จ: 80/120/160/200/240 (+70% ของพลังเวท) ⇒ 80/120/160/200/240 (+80% ของพลังเวท)
Master Yi
คูลดาวน์ของ E ลดลง
Master Yi นั้นไม่ค่อยมีความสุขเท่าไรนักในแพตช์นี้จากการเปลี่ยนแปลงของตัวป่าพลังโจมตีดังนั้นเราจึงมอบพลังให้กับเขาเพิ่มสักเล็กน้อย เป้าหมายในการเปลี่ยนแปลงนี้คือการเพิ่มพละกำลังให้กับเขาให้สูงขึ้นในฐานะแชมเปี้ยนที่เน้นใช้การโจมตีปกติมากกว่าความสามารถอื่นใด
E - Wuju Style
- คูลดาวน์: 18 วินาที ⇒ 14 วินาที
Morgana
ความเสียหายของ W เพิ่มขึ้น ความเสียหายต่อมอนสเตอร์เพิ่มขึ้น
การเปลี่ยนแปลงของ Morgana จากแพตช์ที่แล้วนั้นประสบความสำเร็จมากมายตามเป้าหมายที่เราวางเอาไว้ แต่ก็ยังเพิ่มพลังได้ไม่มากพอตามที่เราต้องการในตำแหน่งเลนกลางและป่า การเพิ่มความเสียหายพื้นฐานให้กับสกิล W ของเธอและการเพิ่มความเสียหายสกิลนี้กับมอนสเตอร์จะช่วยให้ตำแหน่งเหล่านี้ได้รับบัฟเล็กน้อยโดยไม่กระทบกับตำแหน่งซัพพอร์ตของเธอมากนัก ด้วยความที่เรารู้สึกว่าเธอมีระดับพลังที่โอเคอยู่แล้วในตำแหน่งนี้
W - Tormented Shadow
- ความเสียหายเวทต่อวินาที: 12/22/32/42/52 (+17% ของพลังเวท) ⇒ 12/23/34/45/56 (+17% ของพลังเวท)
- ตัวคูณความเสียหายต่อมอนสเตอร์: 165% ⇒ 170%
Rammus
ความเสียหายของ Q ลดลง เกราะของ W ลดลง
Rammus เป็นแชมเปี้ยนที่ได้รับประโยชน์อย่างมากกับแพตช์ 13.20 ด้วยเหตุผลหลัก ๆ สามข้อ ข้อแรกคือความเสียหายต่อวินาทีของเขาสูงขึ้นแบบปรอทแตกด้วยเหตุที่สัตว์เลี้ยงป่ามีความเสียหายสูงขึ้นจากอัตราเกราะที่ดีขึ้น ข้อที่สองคือด้วยเหตุที่เกมจะจบช้าลงจากการเปลี่ยนแปลงเรื่องการต่อต้านการสโนว์บอลที่เกิดขึ้นทำให้จุดอ่อนของเขาในช่วงต้นนั้นมีความสำคัญน้อยลง ข้อสุดท้ายคือเขาสามารถทำผลงานได้ดีกว่าพลังเลเวลที่แท้จริงของเขาจะทำได้เนื่องจากผู้เล่นมักจะหยิบตัวเขามาเล่นเพื่อแก้ทางทีมที่เน้นพลังโจมตี ดังนั้นเราจึงคาดหวังได้ว่า Rammus จะสามารถเอาชนะได้เกินครึ่งหนึ่งของเกมที่หยิบเขามาเล่น แม้ว่าในทางทฤษฎีนั้นเขาจะดูอ่อนแอก็ตาม ถึงอย่างนั้น เขาก็เอาชนะเกมได้หนักเกินไปนิดหน่อย ทำให้ในแพตช์นี้ เราจึงมุ่งเป้าไปที่การนำความอ่อนแอดังกล่าวในช่วงต้นเกมของเขากลับมา ด้วยเหตุที่เขาสามารถเคลียร์ในช่วงต้นได้ไวขึ้นนั่นเอง
Q - Powerball
- ความเสียหายเวท: 100/125/150/175/200 (+100% ของพลังเวท) ⇒ 80/110/140/170/200 (+100% ของพลังเวท)
W - Defensive Ball Curl
- โบนัสเกราะ: 35 (+40/50/60/70/80% ของเกราะทั้งหมด) ⇒ 30 (+35/45/55/65/75% ของเกราะทั้งหมด)
Seraphine
บัฟการฟื้นฟูมานาในช่วงต้น เปลี่ยนความทนทานจากพลังชีวิตเป็นเกราะ ตัวเลขค่าพลังพื้นฐานของสกิลเพิ่มขึ้น อัตราส่วนพลังเวทเพิ่มขึ้น คูลดาวน์ลดลง
แม้ว่าการจัดตำแหน่งของเธอในตอนแรกนั้นจะอยู่ในตำแหน่งเลนกลาง ผู้เล่นกลับพูดถึงกันในหน้าเลือกแชมเปี้ยนกันอย่างกว้างขวางว่าพวกเขาสนุกไปกับการเล่น Seraphine ในตำแหน่งซัพพอร์ตด้วยสไตล์การเล่นหลักที่เธอเป็น แม้ว่าตัวเลขที่เกิดขึ้นจะไม่แข็งแกร่งสักเท่าไรนักก็ตาม ด้วยการปรับแก้ในขณะนี้ เราไม่สามารถบัฟเธอได้เพราะว่า Seraphine ในตำแหน่งแครี่พลังเวทเลนล่างนั้นแข็งแกร่งในแบบที่เราโอเคจะให้เป็นอยู่แล้ว ทำให้แพตช์นี้ เราได้พยายามที่จะทำให้ Seraphine ในตำแหน่งแครี่พลังเวทเลนล่าง ซัพพอร์ต และตำแหน่งเลนกลางมีพลังใกล้เคียงกันมากขึ้น เป้าหมายของเราในส่วนนี้คือการทำให้ทุก ๆ บิลด์ของเธอนั้นแข็งแกร่งและแสดงออกถึงพลังของบิลด์ในแบบที่แตกต่างออกไป และเช่นเคย หากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้ดูโกงจนเกินไป เราจะถอยกลับคืนมาในแพตช์หน้าแน่นอน
เราได้ทำการเปลี่ยนแปลงบางส่วน อย่างแรกคือเราได้ปรับค่าพลังพื้นฐานของเธอให้สมดุลกันกับซัพพอร์ตเสริมพลังตัวอื่น นั่นแปลว่าเธอจะมีการฟื้นฟูมานาในช่วงต้นที่พึ่งพาได้ ซึ่งเอื้อให้เธอสามารถซื้อไอเทม Spellthief และไอเทมซัพพอร์ตอื่นที่มีความสามารถคล้ายกันได้ ด้วยการเปลี่ยนความทนทานของเธอจากพลังชีวิตเป็นเกราะ ทำให้เธอเข้ากันได้ดีขึ้นกับโล่ป้องกันของเธอกับไอเทมเสริมพลังชิ้นอื่นที่ Seraphine มักจะซื้ออยู่เป็นประจำอย่าง Echoes of Helia ได้มากขึ้น
อย่างที่สอง เราได้ขยับให้ความคุ้มค่าพลังของเธอให้เปลี่ยนจากอัตราส่วนพลังเวทไปเป็นพลังพื้นฐานของเธอแทน ด้วยเหตุที่ซัพพอร์ตนั้นจะได้เงินน้อยกว่าตำแหน่งอื่น ๆ การมีพลังพื้นฐานที่พึ่งพาได้นั้นดูจะมีประโยชน์กับตำแหน่งนี้มากกว่าเดิมอย่างมาก ด้วยการลดคูลดาวน์ของเธอลง เธอจะสามารถใช้งานพึ่งพาไอเทมเสริมพลังอย่าง Echoes of Helia และ Ardent Censer ได้มากขึ้น
อย่างที่สาม เราทำการจัดสรรพลังบางส่วนใหม่ให้กับเลนที่เน้นยืนคนเดียวและขยับห่างจากพลังการเล่นเป็นทีม ด้วยการบัฟสกิล E ในระดับที่สูงขึ้นจะทำให้ระดับพลังในช่วงท้ายเกมนั้นมีความเสียหายที่สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด การฮีลของ W ที่ไม่ได้ฮีลเพียงแค่แชมเปี้ยนแต่ละตัวในพื้นที่เท่านั้น แต่จะเพิ่มพลังการฮีลตามจำนวนแชมเปี้ยนที่อยู่ใกล้ ๆ นั้นจะได้รับการเนิร์ฟ ซึ่งสกิลนี้ส่งผลต่ออย่างไม่เป็นสัดเป็นส่วนเท่าไรกับเลนที่เธออยู่รวมกันเป็นกลุ่ม
ผลลัพธ์ท้ายสุดที่เราตั้งเอาไว้คือการทำให้ Seraphine เป็นตัวซัพพอร์ตและตัวเลนล่างที่แข็งแกร่งด้วยสกิลของเธอตามตำแหน่งหลักที่เธอเล่น ด้วยเหตุที่ผู้เล่นส่วนใหญ่ต้องการเล่นเธอในตำแหน่งแบบนั้น ด้วยเหตุนี้ เราจึงมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมเล็กน้อยโดยมุ่งเป้าให้สามารถคงพลังของเธอไว้ในเลนกลางได้ สำหรับผู้เล่นที่อาจมีน้อยแต่ก็ต้องการที่จะเล่นเธอในตำแหน่งนั้นต่อไป
ค่าพลังพื้นฐาน
- การฟื้นฟูมานาพื้นฐาน: 8 ⇒ 11.5
- การเติบโตของการฟื้นฟูมานา: 1 ⇒ 0.4
- มานาพื้นฐาน: 440 ⇒ 360
- การเติบโตของมานา: 40 ⇒ 50
- เกราะพื้นฐาน: 19 ⇒ 26
- การเติบโตของพลังชีวิต: 104 ⇒ 90
- การเติบโตของความเร็วโจมตี: 1% ⇒ 2%
Q - High Note
- คูลดาวน์: 10/8.75/7.5/6.25/5 วินาที ⇒ 9/8/7/6/5 วินาที
- ความเสียหาย: 55/70/85/100/115 (+45/50/55/60/65% ของพลังเวท) ⇒ 55/80/105/130/155 (+50% ของพลังเวท)
W - Surround Sound
- ใช้มานา: 50/60/70/80/90 ⇒ 80/85/90/95/100
- คูลดาวน์: 28/26/24/22/20 ⇒ 28/25/22/19/16
- โล่ป้องกัน: 50/70/90/110/130 (+25% ของพลังเวท) ⇒ 50/75/100/125/150 (+25% ของพลังเวท)
- ฮีลพลังชีวิตที่หายไป: 5/5.5/6/6.5/7% (+0.4% ต่อพลังเวท 100 หน่วย) ⇒ 3/3.5/4/4.5/5%
E - Beat Drop
- ใช้มานา: 60/70/80/90/100 ⇒ 60/65/70/75/80
- ความเสียหายเวท: 60/80/100/120/140 (+35% ของพลังเวท) ⇒ 60/95/130/165/200 (+35% ของพลังเวท)
Tahm Kench
โบนัสความเสียหายเวทของสกิลติดตัวลดลง การคืนคูลดาวน์ของ W เพิ่มขึ้น
ดูเหมือนเจ้ากบตัวนี้จะติดขัด ดังนั้นเราจำเป็นต้องรับรู้ในเสียงที่เรียกร้อง ปลดเปลื้องภาระแบบอึ่ง และปลดปล่อยให้ Kench กลับมามีพลัง (นี่ฉันตกหล่นอะไรไปไหมนะ?) เราต้องการหลีกเลี่ยงในการปรับแก้ให้เขาสามารถดวลวัดค่าพลังได้กับตัวเลนบนที่เขาเจอ ดังนั้นเราจึงปรับแก้ในส่วนของการสเกลจากสกิลติดตัวของเขาเมื่อเขามีเงินติดกระเป๋าในจำนวนหนึ่งแทน นอกจากนี้ เราได้บัฟสกิล W ของเขาเพื่อให้สกิลนี้รู้สึกคุ้มค่ามากขึ้นเมื่อสามารถใช้เปิดจังหวะแบบเต็มตัวใส่คู่ต่อสู้ของเขาได้
สกิลติดตัว - An Acquired Taste
- โบนัสความเสียหายเวท: 8-60 (ขึ้นอยู่กับเลเวล) (+2% ของพลังเวทต่อโบนัสพลังชีวิต 100 หน่วย) (+3% ของโบนัสพลังชีวิต) ⇒ 6-48 (ขึ้นอยู่กับเลเวล) (+2% ของพลังเวทต่อโบนัสพลังชีวิต 100 หน่วย) (+5% ของโบนัสพลังชีวิต)
W - Abyssal Dive
- คืนคูลดาวน์เมื่อสกิลโดนแชมเปี้ยน: 40% ⇒ 40/42.5/45/47.5/50%
Varus
ความเสียหายของ W เพิ่มขึ้น เอฟเฟกต์สโลว์ของ E เพิ่มขึ้น
กลายเป็นว่า Varus นั้นสูญเสียพลังลงไปจากการเปลี่ยนแปลงเรื่องการต่อต้านการสโนว์บอลที่เกิดขึ้นในแพตช์ 13.20 ดังนั้นเขาจึงได้รับบัฟชดเชยในแพตช์นี้ เราตั้งเป้าให้บิลด์โจมตีจุดตายและบิลด์ On-Hit ของเขานั้นมีพลังที่ใกล้เคียงกัน ทำให้เขาได้รับบัฟแบบเบา ๆ ที่จะช่วยเสริมสไตล์การเล่นทั้งสองแบบนี้ พวกเราชื่นชอบเป็นพิเศษที่ Varus สามารถมอบ CC บางส่วนให้ได้ ดังนั้นเราจึงขอเสริมพลังในส่วนนี้ของเขาด้วยสักนิดหน่อย หมายเหตุเสริมเล็กน้อย Varus ในบิลด์โจมตีจุดตายนั้นมีผลงานที่ไม่ดีเอาเสียเลยในขณะนี้ จากการที่เขาจะออก Dustblade เป็นไอเทมชิ้นแรกแทนที่จะเป็น Youmuu's Ghostblade ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า ดังนั้นเราจึงหลีกเลี่ยงการบัฟที่เกี่ยวข้องกับบิลด์ที่ว่านี้ออกไป จากที่เราคาดการณ์ไว้ว่าบิลด์แบบนี้จะแข็งแกร่งขึ้นแน่เมื่อผู้เล่นทำการอัปเดตวิธีการขึ้นไอเทมของเขา
W - Blighted Quiver
- ความเสียหายเวท: 7/12/17/22/27 (+35% ของพลังเวท) ⇒ 7/13/19/25/31 (+35% ของพลังเวท)
E - Hail of Arrows
- สโลว์: 25/30/35/40/45% ⇒ 30/35/40/45/50%
Zyra
ความเร็วโจมตีพื้นฐานเพิ่มขึ้น ปรับเปลี่ยนความเสียหายของพืช ความเสียหายของ Q เพิ่มขึ้น ปรับเปลี่ยนความเสียหายของ E
Zyra ถือเป็นแชมเปี้ยนซัพพอร์ตที่แข็งแกร่งมาอย่างยาวนาน แต่ย้อนกลับไปตอนนั้น เธอเคยเป็นแชมเปี้ยนเลนกลางที่แข็งแกร่งตัวหนึ่งด้วยเช่นกัน แม้ว่าเราคาดหวังว่า Zyra นั้นจะมีหน้าที่หลักในฐานะตัวซัพพอร์ต (ซึ่งนั้นเกิดขึ้นตั้งแต่ที่ผู้เล่นเลือกหยิบเธอมาเล่นตั้งแต่ที่เธอเปิดตัว) เราได้พยายามที่จะบัฟ Zyra ให้กลับมาเล่นในตำแหน่งเลนกลางและป่าได้ในฐานะตำแหน่งรองอันแข็งแกร่ง ความเร็วโจมตีที่เกิดขึ้นนั้นจะช่วยเธอเป็นตัวเลนที่ลาสมินเนี่ยนรถถังได้ดีขึ้นเมื่อเธอต้องอยู่ตัวคนเดียว (หลัก ๆ แล้วจะอยู่ในบริบทของตัวเลนกลางล่ะนะ) ขณะที่ช่วยดันพลังเสริมให้กับสกิลที่ Zyra เลนกลางมักจะอัปให้เต็มก่อนนั้นจะช่วยให้เธอสามารถควบคุมเลนได้มากขึ้นและเคลียร์เวฟได้ดีขึ้น อีกทั้งการผลัดเปลี่ยนให้พลังของเธอที่เดิมทีจะสเกลตามเลเวลที่สูงขึ้นไปเป็นอัตราส่วนพลังเวทแทนนั้นจะช่วยบัฟให้เธอแข็งแกร่งขึ้นในตำแหน่งป่า
ค่าพลังพื้นฐาน
- ความเร็วโจมตีที่เลเวล 1: : 0.625 ⇒ 0.681 (หมายเหตุ: อัตราส่วนความเร็วโจมตีนั้นไม่เปลี่ยนแปลง)
สกิลติดตัว - Garden of Thorns
- ความเสียหายเวทของต้นไม้: 20-100 (ขึ้นอยู่กับเลเวล) (+15% ของพลังเวท) ⇒ 20-88 (ขึ้นอยู่กับเลเวล) (+18% ของพลังเวท)
Q - Deadly Spines
- ความเสียหายเวท: 60/95/130/165/200 (+60% ของพลังเวท) ⇒ 60/100/140/180/220 (+65% ของพลังเวท)
E - Grasping Roots
- ความเสียหายเวท: 60/105/150/195/240 (+50% ของพลังเวท) ⇒ 60/95/130/165/200 (+60% ของพลังเวท)
ไอเทม
Hullbreaker
ขณะนี้ Hullbreaker นั้นทำผลงานได้อย่างโดดเด่นกับแชมเปี้ยนที่ใช้งานไอเทมนี้มากเกินไป นั่นแปลว่าไอเทมนี้ได้เข้าสู่เกณฑ์อันตรายเข้าเสียแล้ว ทำให้ในแพตช์นี้เราจึงมองไปที่การลดความสามารถในการดวลเพื่อวัดค่าพลังกับศัตรูลงโดยการลดจำนวนเกราะและต้านทานเวทที่ไอเทมนี้มอบให้ เนื่องจากการต่อกรกับตัวแยกดันที่ออก Hullbreaker แบบ 1v1 นั้นเป็นเรื่องที่ยากจะจัดการ
- โบนัสเกราะและต้านทานเวท (ระยะประชิด): 10-75 (ขึ้นอยู่กับเลเวล) ⇒ 10-60 (ขึ้นอยู่กับเลเวล)
- โบนัสเกราะและต้านทานเวท (ระยะไกล): 5-37.5 (ขึ้นอยู่กับเลเวล) ⇒ 5-30 (ขึ้นอยู่กับเลเวล)
รูน
First Strike
แม้ว่าจะมีการเนิร์ฟ First Strike เกิดขึ้นไปพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงรูนในแพตช์ 13.20 รูนนี้ก็ยังทำผลงานได้ดีเกินกว่าตัวเลือกอื่น ๆ และจำเป็นต้องได้รับการเนิร์ฟเพิ่มเติม ทำให้การเนิร์ฟนี้จะเกิดขึ้นอย่างตรงไปตรงมาซึ่งจะช่วยลดจำนวนความเสียหายที่รูนนี้สามารถทำได้ลง รวมไปถึงการลดจำนวนเงินที่ผู้ใช้งานรูนนี้จะได้รับอีกด้วย
- โบนัสความเสียหาย: 8% ⇒ 7%
Phase Rush
เราได้ทำการเนิร์ฟรูนคีย์สโตนมากมายยกเว้น Phase Rush ในแพตช์ 13.20 ด้วยเหตุที่เป้าหมายหลักของเรานั้นคือการลดทอนการสเกลจำนวนทองลง ไม่ใช่การไล่เนิร์ฟทุกรูนให้ครบ ด้วยเหตุที่เราไม่ได้ทันคาดคิดว่า Phase Rush จะกลายเป็นรูนที่แข็งแกร่งกว่าที่เราต้องการ เราจึงตัดสินใจเนิร์ฟรูนนี้ในแพตช์ 13.21 เราทำการเนิร์ฟรูนนี้ในส่วนของแชมเปี้ยนระยะประชิดเท่านั้น ด้วยเหตุที่เรากังวลว่าแชมเปี้ยนอย่าง Garen จะใช้ประโยชน์ส่วนนี้ในการลดทอนความอ่อนแอของเขาลง และเพราะว่าแชมเปี้ยนระยะประชิดที่ใช้งานรูนนี้จะได้รับประโยชน์เหนือกว่าที่รูนนี้มอบให้ รวมไปถึงแชมเปี้ยนอื่นนอกเหนือจากนี้อีกมากมายที่สามารถได้รับประโยชน์จากพลังของรูนที่ควรจะเป็น
- โบนัสความเร็วเคลื่อนที่ (ระยะประชิด): 30-60% (ขึ้นอยู่กับเลเวล) ⇒ 25-50% (ขึ้นอยู่กับเลเวล)
เปลี่ยนแปลงการฟื้นฟูของป่า
แพตช์ที่แล้วได้เกิดผลประโยชน์อย่างมากในการลดทอนพลังของป่าลงในเชิงของการดำเนินเกมที่เกิดขึ้น แต่น่าเสียดายที่เรื่องนี้ส่งผลให้ตัวป่านั้นเป็นตำแหน่งที่เล่นได้สนุกน้อยลง ด้วยเหตุนี้ เราจึงจะย้อนหรือบัฟการเนิร์ฟบางส่วนที่เกิดขึ้นในแพตช์ 13.20 เป้าหมายหลักของเราตรงนี้คือการคืนความปลอดภัยให้กับป่า นั่นหมายความว่าตำแหน่งป่าจะมีระดับพลังชีวิตที่สูงขึ้นเมื่อเข้าทำจังหวะ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่พวกเขาควรรู้สึกว่าการได้มาซึ่งจำนวนทองจากแหล่งการฟาร์มหลักด้วยการสังหารแคมป์ป่านั้นควรจะปลอดภัยในระดับที่ใกล้เคียงกับตัวเลนที่กำลังฟาร์มเวฟเลนของพวกเขา
เมื่อพูดให้กว้างขึ้นจากเป้าหมายของเราในการเปลี่ยนแปลงจากแพตช์ที่แล้ว พวกเราดีใจที่ตัวเลนมีค่าพลังที่สูงขึ้นมากในช่วงต้นเกม ทำให้ตัวป่าเน้นถึกสามารถถอยไปเน้นหนักที่การฟาร์มได้มากขึ้น ทำให้ตัวป่าใช้เวลามากขึ้นในป่าของพวกเขาในช่วงระหว่างการเข้าทำ และทำให้ตัวป่านั้นลดความแข็งแกร่งในตำแหน่งเฉพาะลง ซึ่งไม่ได้ผูกมัดกับความสามารถที่แชมเปี้ยนนั้น ๆ มี
- ความเสียหายของสัตว์เลี้ยงป่า: 16 (+10% ของพลังเวท) (+20% ของโบนัสเกราะ) (+20% ของโบนัสต้านทานเวท) (+3% ของโบนัสพลังชีวิต) ⇒ 15.5 (+12% ของพลังเวท) (+10% ของโบนัสพลังโจมตี) (+20% ของโบนัสเกราะ) (+20% ของโบนัสต้านทานเวท) (+3% ของโบนัสพลังชีวิต)
- ฟื้นฟูพลังชีวิตจากสัตว์เลี้ยงป่าต่อวินาที: 70% ของความเสียหายที่ทำได้ สูงสุดที่ 12-45 (เลเวล 1-12) ⇒ 12-35 (เลเวล 1-10) (หมายเหตุ: ในตอนนี้จะการันตีการฮีลแบบเป็นตัวเลขแทนที่จะเป็นอัตราส่วนและจำนวนสูงสุดแทนแล้ว)
- ฟื้นฟูพลังชีวิตเมื่อสังหารมอนสเตอร์: 12% ของพลังชีวิตที่หายไป ⇒ 36-90 (เลเวล 1-10) (สูงสุด 2.25 เท่าตามพลังชีวิตที่หายไป)
- ฟื้นฟูมานาเมื่อสังหารมอนสเตอร์: 20% ของมานาที่หายไป ⇒ 19-87 (เลเวล 1-18) (สูงสุด 2.25 เท่าตามมานาที่หายไป)
การเปลี่ยนแปลง ARAM
บัฟ
- Ezreal: ความเสียหายที่ได้รับ 103% ⇒ ความเสียหายที่ได้รับ 105%
- Kindred: ความเร็วโจมตีทั้งหมดเพิ่มขึ้น 2.5%
- Naafiri: ความเสียหายที่ได้รับ 100% ⇒ ความเสียหายที่ได้รับ 95%
- Yone: ความเสียหายที่ทำได้ 103% ⇒ ความเสียหายที่ทำได้ 105%
เนิร์ฟ
- Briar: การฮีลที่ทำได้ 130% ⇒ การฮีลที่ทำได้ 120%
- Jinx: ความเสียหายที่ทำได้ 95% ⇒ ความเสียหายที่ทำได้ 90%
- Lillia: คูลดาวน์ของ E; 14 วินาที ⇒ 18 วินาที
- Morgana: ความเสียหายที่ทำได้ 94% ⇒ ความเสียหายที่ทำได้ 90%
- Milio: โล่ป้องกัน 95% ⇒ โล่ป้องกัน 90%
- Nunu & Willump: การฮีลที่ทำได้ 120% ⇒ การฮีลที่ทำได้ 110%
เปลี่ยนแปลง
- Aurelion Sol: คูลดาวน์ของ E; 12 วินาที ⇒ 14 วินาที เร่งสกิล; -20 ⇒ 0
Worlds Clash
Worlds มาถึงแล้ว! การจัดทีมสำหรับสุดสัปดาห์ที่สองของ Worlds Clash จะเริ่มต้นในวันที่ 30 ตุลาคม และจะแข่งขันกันในวันที่ 4 และ 5 พฤศจิกายน รีเฟรชรางวัลกันใหม่อีกครั้ง:
นอกเหนือจากถ้วยรางวัล แบนเนอร์ และโลโก้ที่จะได้รับจากทัวร์นาเมนต์ Clash อื่น ๆ Worlds Clash ก็จะมีแคปซูลรางวัลมอบให้เพิ่มเติมอีกด้วย ภายในแคปซูลจะประกอบไปด้วย:เนื่องจาก Worlds Clash นั้นจะมีสายการแข่งขันแบบ 16 ทีม แทนที่จะเป็นสายการแข่งขันแบบ 8 ทีมตามปกติ ทำให้จะมีรางวัล Orb และ Capsule เพิ่มเติมเข้ามาด้วย โดยขึ้นอยู่กับจำนวนการชนะ/แพ้ที่ทำได้:
- สำหรับผู้ที่เข้าร่วม Worlds Clash ด้วย Ticket พรีเมียมและจบด้วยอันดับ 1 - 7: สกิน Championship ถาวร (1 ชิ้น)
- สำหรับทุกคนที่เข้าร่วม Worlds Clash (ด้วย Ticket พื้นฐานและพรีเมียม) และได้อันดับ 1: World's Event Capsule (1 ชิ้น)
- สำหรับผู้ที่เข้าร่วม Worlds Clash ด้วย Ticket พรีเมียมและจบด้วยอันดับ 8 - 15: ชิ้นส่วนสกิน Championship (1 ชิ้น)
- Ticket พื้นฐาน: ชนะ 0 แพ้ 3: XP Boost ชนะ 3 ครั้ง, Mystery Icon 1 ชิ้น, โลโก้ Clash 1 ชิ้น
- Ticket พื้นฐาน: ชนะ 1 แพ้ 3: Mystery Emote 1 ชิ้น, สกินวอร์ด (640), โลโก้ Clash 1 ชิ้น
- Ticket พื้นฐาน: ชนะ 2 แพ้ 2: สกินวอร์ด (640), ชิ้นส่วนสกิน (975), Mystery Icon 1 ชิ้น, Mystery Emote 1 ชิ้น, โลโก้ Clash 1 ชิ้น, Ticket พื้นฐาน 1 ชิ้น
- Ticket พื้นฐาน: ชนะ 3 แพ้ 1: สกินวอร์ด (640), ชิ้นส่วนสกิน (975), ชิ้นส่วนสกิน (1350), Mystery Icon 1 ชิ้น, Mystery Emote 1 ชิ้น, Chibi Icon 1 ชิ้น, โลโก้ Clash 1 ชิ้น, Ticket พื้นฐาน 1 ชิ้น
- Ticket พื้นฐาน: [เฉพาะ Worlds Clash เท่านั้น] ชนะ 4: สกินวอร์ด (640), ชิ้นส่วนสกิน (975), ชิ้นส่วนสกิน (1350), Mystery Icon 1 ชิ้น, Mystery Emote 1 ชิ้น, Chibi Icon 1 ชิ้น, โลโก้ Clash 1 ชิ้น, Ticket พื้นฐาน 1 ชิ้น, Worlds Orb/Capsule 1 ชิ้น
- Ticket พรีเมียม: ชนะ 0 แพ้ 3: Ticket พื้นฐาน 1 ชิ้น, 500 OE, ชิ้นส่วนสกิน (750), โลโก้ 1 ชิ้น
- Ticket พรีเมียม: ชนะ 1 แพ้ 3: Ticket พื้นฐาน 1 ชิ้น, 500 OE, ชิ้นส่วนสกิน (750), ชิ้นส่วนสกิน (975), ชิ้นส่วนสกิน (1350), โลโก้ 1 ชิ้น
- Ticket พรีเมียม: ชนะ 2 แพ้ 2: Ticket พื้นฐาน 1 ชิ้น, 750 OE, ชิ้นส่วนสกิน (750), ชิ้นส่วนสกิน (975), ชิ้นส่วนสกิน (1350), ชิ้นส่วนสกิน (1820), โลโก้ 1 ชิ้น
- Ticket พรีเมียม: ชนะ 3 แพ้ 1: Ticket พื้นฐาน 1 ชิ้น, 750 OE, ชิ้นส่วนสกิน (750), ชิ้นส่วนสกิน (975), ชิ้นส่วนสกิน (1350), ชิ้นส่วนสกิน (1820), Chibi Icon 1 ชิ้น, 10 Mythic Essence, สกิน (1350), โลโก้ 1 ชิ้น
- Ticket พรีเมียม: [เฉพาะ Worlds Clash เท่านั้น] ชนะ 4: Ticket พื้นฐาน 1 ชิ้น, 750 OE, ชิ้นส่วนสกิน (750), ชิ้นส่วนสกิน (975), ชิ้นส่วนสกิน (1350), ชิ้นส่วนสกิน (1820), Chibi Icon 1 ชิ้น, 10 Mythic Essence, สกิน (1350), โลโก้ 1 ชิ้น, Worlds Orb/Capsule 1 ชิ้น
การหมุนเวียนร้านค้า Mythic
ในแพทช์นี้ Soulstealer Vayne จะหมุนเวียนเข้าสู่ร้านค้าแบบนอกรอบเพื่อรองรับการมาของโครม่า LPL สุดพิเศษของเธอ โดยเราจะทำให้แน่ใจว่าผู้เล่นจะมีโอกาสได้การรับสกินของเธอ เช่นเดียวกับสกินอื่น ๆ ที่ได้รับโครม่า Soulstealer Vayne และโครม่าของสกินจะยังคงอยู่ในร้านค้า Mythic ไปจนถึงวันที่ 28 พฤศจิกายน (ในช่วงแพตช์ 13.23) Soulstealer Vayne จะมีราคา 125 ME โครม่า First Decennial รวมกับไอคอนนั้นจะมีราคา 40 ME ส่วนโครม่า Tenfold Triumph จะวางขายในร้านค้าซึ่งสามารถซื้อได้โดยตรงในราคา 290 RP
วางจำหน่ายแล้วตอนนี้
- Soulstealer Vayne
- Soulstealer Vayne (First Decennial) chroma + ไอคอน
กำลังจะออกจากร้านค้า Mythic
- Prestige La Ilusion Renata Glasc
การแก้ไขบั๊กและปรับปรุงคุณภาพชีวิต
การปรับปรุงคุณภาพชีวิต
- เกณฑ์ในการโหวดสำเร็จเมื่อมีการ AFK ในช่วงต้นเกมได้ลดลงจาก 100% เป็น 70%
- คำนำหน้าการส่งสัญญาณ [สร้างไว้ล่วงหน้า] ได้เปลี่ยนเป็นคำว่า [ปาร์ตี้] เพื่อให้ตรงกับการพูดคุยภายในปาร์ตี้ที่มีอยู่
- ทำการปรับปรุงให้คอมโบ E+Q ของ Coven Nilah นั้นดูไม่เหมือนกับสกิล Q ของ Coven Morgana อีกต่อไป
แก้ไขบั๊ก
- แก้ไขบั๊กที่ทำให้สกิลติดตัวของ Fiora ไม่สนใจการหลบหลีกจากสกิล W ของ Shen
- แก้ไขบั๊กเอฟเฟกต์ภาพและเอฟเฟกต์พิเศษมากมายที่เกิดขึ้นหลังจากการอัปเดตเอฟเฟกต์ภาพของ Jax
- แก้ไขบั๊กที่ทำให้ฮิตบ็อกซ์สกิล E ของ Tryndamere นั้นดูเล็กกว่าที่ควรจะเป็น
- แก้ไขบั๊กที่ทำให้สกิล Q ของ Singed นั้นทำให้เกิดสแตค Conqueror
- แก้ไขบั๊กที่ทำให้เสียงพากย์ของ Ezreal เมื่อเก็บ First Blood และเมื่อโจมตีมอนสเตอร์ในตำนานนั้นไม่แสดงผล
- แก้ไขบั๊กที่ทำให้วิถีกระสุนสกิล R ของ Vex นั้นไม่สร้างความเสียหายให้กับมินเนี่ยนศัตรูหรือมอนสเตอร์
- แก้ไขบั๊กที่ทำให้สกิล R ของ Milio ไม่ล้างสถานะคลั่งของ Renata
- แก้ไขบั๊กที่ทำให้สกิล W ของ Ivern นั้นไม่ทำงานเมื่อโจมตีมอนสเตอร์ในตำนาน
- แก้ไขบั๊กที่ทำให้เอฟเฟกต์ภาพตัวนับเวลาบัฟสกิล W ของ Varus แสดงผลไม่ชัดเจน
- แก้ไขบั๊กที่ทำให้ Viego สามารถรีเซ็ตเวลาความสามารถติดตัวของ Crown of the Shattered Queen เมื่อสิ้นสุดเวลาการสิงร่าง
- แก้ไขบั๊กที่ทำให้สกิลติดตัวของ Fiora ไม่สนใจการหลบหลีกจากสกิล W ของ Shen
- แก้ไขบั๊กที่ทำให้ Pix ของ Cosmic Enchantress Lulu ใช้งานเอฟเฟกต์เส้นทางวิ่งกลับฐานจากมุมมองของศัตรู
- แก้ไขบั๊กที่ทำให้เอฟเฟกต์ภาพสกิล Whimsy (W) ของ Cosmic Enchantress Lulu นั้นไม่ติดตามการเคลื่อนไหวของเป้าหมายตามที่ควรจะเป็น
- แก้ไขบั๊กที่ทำให้เอฟเฟกต์ภาพสกิล Whimsy (W) เมื่อยืนบนพื้นของ Star Guardian และ Pajama Guardian Lulu นั้นไม่ติดตามการเคลื่อนไหวของเป้าหมายตามที่ควรจะเป็น
- แก้ไขบั๊กที่ทำให้เอฟเฟกต์พิเศษสกิล Tidal Wave (R) ของ Coven Nami ไม่สามารถได้ยินเสียงได้ทั้งหมดเมื่อสกิลนี้ถูกใช้งานจากในหมอก
- แก้ไขบั๊กที่ทำให้สกิล Equalizer (R) ของ Bilgeret Rumble นั้นตกหล่นเอฟเฟกต์ภาพบางส่วน
- แก้ไขบั๊กที่ทำให้เอฟเฟกต์ภาพของสกิล Flamesplitter (Q) ของ Super Galaxy Rumble นั้นถูกตัดจบจากบนพื้น
- แก้ไขบั๊กที่ทำให้สกิลติดตัว Junkyard Titan ของ Super Galaxy Rumble นั้นตกหล่นโอเวอร์เลย์สีแดงเมื่อโอเวอร์ฮีท
สกินและโครม่าที่กำลังจะมา
สกินเหล่านี้จะเปิดขายในแพตช์นี้:
โครม่าเหล่านี้จะเปิดขายในแพตช์นี้: